เปลี่ยนบรรยากาศ

" เบื๊อ เบื่อ มีอะไรกันที ก็อีแบบเดิมทุกที เริ่มต้นก็อีแบบนั้น แล้วก็มาจบลงอีแบบนี้..."

คุณเคยคิดจะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศของการร่วมรักจากแบบเดิมๆ กันบ้างไหมครับ หรือว่าคิดจะเปลี่ยนแต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ลองอ่านที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ ดูว่าคุณพอจะทำได้ไหม และถูกรสนิยมกับคุณมากเพียงใด เพราะที่ผมจะแนะนำนี้ อาศัยจากสถิติการสำรวจพฤติกรรมทางเพศของมวลมนุษยชาติ จากตัวแทนประเทศต่างๆ ทั่วโลก ว่าพวกเขาอยากจะมีเพศสัมพันธ์กันที่ใดบ้าง และในรูปแบบใด


1. เริงรักกันในอ่างน้ำวน...สุดยอดปรารถนา ของหนุ่มสาวยุคใหม่

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า หนุ่มสาวยุคใหม่ทั้งไทยและเทศ พร้อมใจกันตอบคำถามว่า อยากเริงรักกันที่ไหนมากที่สุด... " จาคุซซี่ " เป็นคำตอบติดอันดับแรกออกมาเลย

ที่จริงการลงไปแต่ในอ่างน้ำวนจาคุซซี่ จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายหายเครียด จากการงานที่ทำมาอย่างหนัก แรงน้ำที่ไหลวนมานวดตัวของคุณทั้งสองจะทำให้รู้สึกเบาสบาย และผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้ามีกลิ่นหอมของมวลดอกไม้นานาพันธุ์ด้วยแล้วละก็ คุณเอ๋ยสวรรค์บนดินดีๆ นี่เอง ใครๆ ถึงอยากที่จะร่วมรักกันในอ่างน้ำวนนัก ก็เพราะเสน่ห์ประการฉะนี้เอง

นอกจากนี้ การร่วมรักกันในอ่าง จะได้สัมผัสรักที่แนบสนิทชิดเชื้อกันมากขึ้น เพราะสายน้ำจะชะล้างเอาคราบน้ำเมือกน้ำหล่อลื่นออกไป ทำให้อวัยวะส่วนนั้นของทั้งสอง สามารถสัมผัสรักกันได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ลื่นมากเกินไป เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีอารมณ์มาก และมีน้ำหล่อลื่นออกมามากกว่าปกติเป็นยิ่งนัก รวมทั้งคุณผู้หญิงที่ส่วนสงวนไม่ค่อยจะกระชับ เนื่องจากเคยคลอดบุตรมาก่อน การร่วมรักในน้ำก็จะทำให้เพิ่มความกระชับมากขึ้น ไม่เชื่อก็ลองดู

ยิ่งถ้าได้แชมเปญเย็นๆ หรือไวน์ขาวเย็นๆ สักแก้วด้วยแล้ว คุณเอ๋ย อะไรจะมาเปรียบปาน กับความสุขที่ได้รับ จากการร่วมรักในอ่างน้ำวนไปได้ ถ้าหาอ่างน้ำวนไม่ได้... อ่างน้ำธรรมดาก็สามารถใช้แทนกันได้ ไม่มีข้อจำกัดแต่อย่างใด

2. เราจะเป็นของกันและกันภายใต้ดวงดาว

ลองนึกฝันไปว่าคุณสองคนนอนอยู่บนนอกชานของบ้านปีกไม้ ในหุบเขาที่มีแต่เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องระงม ในบรรยากาศของป่าเขา เดือนมืด ที่มีแต่ดาวระยิบระยับฟ้า มีลมหนาวแต่บางเบาโชยมา เป็นระยะๆ

คุณและเธอนอนกอดกัน กระซิบบอกรัก ลูบไล้สัมผัสผิวกายซึ่งกันและกันอย่างไม่รีบร้อน ปล่อยให้อารมณ์กระเจิดกระเจิงไปตามบรรยากาศแห่งป่าเขาที่เป็นส่วนตัวและร่วมรักกันอย่างไม่ต้องรีบเร่ง !!

3. ร่วมรักท่ามกลางเสียงกระซิบจากท้องทะเล

ชายหาดที่เงียบสงบ หาดทรายขาวสีนวล เป็นแนวยาว กลางแสงจันทร์คืนวันเพ็ญ ต้นมะพร้าวโอนเอน ส่งเสียงตามแรงลมทะเลที่พัดขึ้นบก เสียงคลื่นซัดชายหาด เป็นระยะๆ ช่างเป็นบทเพลงแห่งธรรมชาติที่แสนจะโรแมนติก

และเหมาะที่จะเป็นของกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ริมชายหาด บนผืนผ้าที่ปูวางกับพื้นทรายละเอียด หรือในห้องนอนของบังกะโลริมทะเล ที่เปิดหน้าต่างไว้ ฟังเสียงจากธรรมชาติ เติมเต็มแห่งพิศวาส

4. โคลงเคลงในเรือรักเรือสำราญ

คุณคงเคยดูภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ เรื่องเรือรักเรือสำราญ กันบ้าง เคยนึกบ้างไหมครับว่า สักวันหนึ่งคุณจะไปลงเรือรักเรือสำราญสักลำหนึ่ง เพื่อที่จะมีบทรักที่สร้างความสุขสมให้แก่กันและกัน

ลองหลับตานึกภาพ เรือที่โคลงเคลงไปตามคลื่นลมในท้องทะเล แล้วคุณสองคนนอนกอดกัน ในชุดนุ่งลมห่มฟ้า ปล่อยให้อารมณ์รักใคร่ล่องลอยเข้าหากัน หลอมร่างกายและดวงใจเข้าด้วยกัน ขยับกายทั้งสองคน เพื่อที่จะได้สัมผัสความรักที่ลึกซึ้ง ภายในของกันและกัน ไปตามการโคลงของเรือรักเรือรำราญ...จนมีความสุขสมร่วมกัน

โดยเฉพาะการเริงรักยามรุ่งอรุณ ที่ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาเป็นลูกไฟดวงกลมโต ที่มองเห็นจากช่องหน้าต่างของห้องนอนในเรือ แค่คิดก็แสนจะโรแมนติกแล้ว... ถ้าทำได้จะขนาดไหน ไม่กล้านึก และไม่กล้าบอกว่าเคยลองมาแล้วหรือไม่...กลัวคุณอิจฉา

5. เบาะหลังรถยนต์...สวรรค์ของหนุ่มสาว

เคยไหมครับ มีอะไรกันกับแฟนบนเบาะหลังรถยนต์ที่จอดในสุมทุมพุ่มไม้ ที่เงียบสงัดในคืนเดือนมืด ปราศจากคนเห็น มันเป็นความตื่นเต้น เร้าใจ ของหนุ่มสาวในยุคที่ไม่มีเงินทองพอจะไปเช่าโมเต็ลร่วมรักกัน เป็นความฝันของหนุ่มๆ ในขณะเป็นนักศึกษาปีแรกๆ ของมหาวิทยาลัยในต่างแดน...และไม่แน่ว่า เมืองไทยก็เป็นเช่นกัน

ถ้าคุณสองคนคิดจะฟื้นความหลังครั้งสำคัญนี้ อย่าทำในสวนสาธารณะในเมืองไทยเลย เพราะอาจจะมีผู้หวังดีมาขอร่วมแจมด้วยอีกหลายคน... จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมไปแทนที่จะมีความสุข

ลองไปทำที่สวนสาธารณะของประเทศเพื่อนบ้านสิงคโปร์ดูซิครับ ใกล้แค่นี้เอง ผมเคยอ่านพบข่าวว่า ทางการสิงคโปร์ตีพิมพ์แหล่งที่มีบรรยากาศโรแมนติก และมิดชิด เป็นส่วนตัว ที่จะให้หนุ่มสาวไปเริงรักกันในเบาะหลังรถยนต์ โดยไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด เราจะลองไปใช้บริการบ้าง ก็น่าจะดี เพราะเรื่องแบบนี้ เราคงต้อง...ร่วมด้วยช่วยกัน

6. รถด่วนขบวนกลางคืน...ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ ช่าง

แน่นอนถ้าคุณสองคน จองห้องนอนชั้นหนึ่งของขบวนรถด่วน ที่เดินทางกลางคืน ไปยังจุดหมายปลายทางแห่งใดแห่งหนึ่ง และอยู่ด้วยกันสองต่อสองบนเตียงนอน พร้อมกับฟังเสียงล้อรถไฟบดรางไปด้วย เสียงว่า " ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง " คุณก็คงจะคิดอยากทำอะไรสักอย่าง แบบถึงก็ดีไม่ถึงก็จะพยายามทำให้ถึง ให้ได้กันบ้างก็ได้ ใครจะรู้ ผมเคยสอบถามพรรคพวกที่เคยมีกิจกรรมแห่งความรักใคร่บนรถด่วนในต่างประเทศดู แล้ว ได้ความว่า ถึงจะคับแคบไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสุขลดลง กลับจะตื่นเต้นมากขึ้นเสียด้วย เพราะมีครั้งหนึ่งกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มพอดีได้ยินเสียงเคาะประตูจากการ์ดรถ จะมาตรวจตั๋ว ก็เลยต้องรีบจ้ำพรวดจ้ำพรวดจนเสร็จกิจภายในเวลาไม่กี่วินาที พร้อมกันทั้งสองคน

" เป็นประสบการณ์ที่เราสองคนไม่ลืมเลย จนวันตาย " เขาเล่าให้ฟัง พร้อมกลั้วหัวเราะ ก่อนที่จะเล่าต่อว่า " ตาการ์ดรถโผล่หน้าเข้ามา แล้วบอกว่า มีอะไรให้ผมรับใช้ไหม " " เรียบร้อยแล้วครับ " ...เขาตอบ

7. บนโซฟาในห้องรับแขก...ใกล้แค่นี้เอง

ไม่ต้องไปหาที่ไกลๆ หรือแปลกใหม่หรอกครับ ปรับเปลี่ยนบรรยากาศไปร่วมรักกันห้องอื่นบ้าง นอกจากห้องนอนและบนเตียงนอน อาจจะทำให้หายซ้ำซากจำเจ เกิดบรรยากาศที่แปลกใหม่และเร้าใจก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นโซฟาในห้องรับแขก อ่างน้ำในห้องอาบน้ำ หรือแม้กระทั่งโต๊ะประกอบอาหารในห้องครัว ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่สามารถจะประกอบกิจกรรมแห่งความรักใคร่ได้ทั้ง สิ้น แล้วคุณสองคนอาจจะพูดคำเดียวกับบุรุษไปรษณีย์ในภาพยนตร์เรื่อง THE POST MAN ALWAYS RING TWICE ว่า ครั้งเดียวไม่เคยพอ ก็ได้ใครจะรู้

8. ห้องนอน...สูงสุดคืนสู่สามัญ

เมื่อรักคืนเรือน ความฝันอันแสนจะบรรเจิด ก็กลับมาสู่ความเป็นจริง เหมือนกับสำนวนของนวนิยายจีนที่ว่า สูงสุดคืนสู่สามัญ...

...ห้องนอนจึงเป็นจุดแรกและจุดสุดท้ายของความเป็นจริงห้องนอนจึงมีไว้เพื่อนอนหลับพักผ่อนและร่วมรักกันอย่างสุขสม

ปรับปรุงโฉมห้องนอนของคุณเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนม่านหน้าต่าง เปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ และผ้าปูที่นอน หมอน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้สวยสดงดงามสะอาดเอี่ยม ชวนฝันถึง... ให้เกิดความสุขสบายในการอยู่อาศัยและประกอบกิจกรรมแห่งความรักใคร่ร่วมกัน

เปลี่ยนกลิ่น เปลี่ยนสี...และเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ที่เปลี่ยนได้แต่อย่าเปลี่ยนใจ...ที่จะรักกัน เพราะเราเกิดมาคู่กัน คู่บ้านนี้ คู่ห้องนอนนี้ เพื่อที่จะเป็นเพื่อนรักเพื่อนคู่คิดมิตรแท้... และเป็นคู่ชีวิต บ้าน...รังรักที่อบอุ่นของเราสองคน

แค่เขียนถึง...ก็คิดถึงบ้านแล้วครับ ขอตัวกลับบ้านก่อน เพราะบ้านมีความรักรออยู่ เหมือนคำกล่าวที่ว่า " กลับบ้านเรา รักรออยู่ "
...รอเดี๋ยวนะ จะรีบกลับไป

[ ที่มา... เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 10 ฉบับที่ 453 วันที่ 17 - 23 ธ.ค. 2544 ]