เสือ...ความสง่า ความงามและสมาธิ

อีกเพียงเดือนกว่าๆ ก็จะถึงปีนักษัตรปีขาลแล้ว จึงนำนิทรรศการที่เกี่ยวกับเสือมาให้ชมกันเพลินตาเพลินใจกันก่อน

เป็นผลงานของ “สิปปวิชญ์ พลสิงห์” ที่นำเสือสีอะครีลิกในหลากหลายท่าทางบนผืนผ้าใบมาจัดแสดง ในชื่อนิทรรศการ “เสือตัวที่สิบสอง”

ชื่อนิทรรศการไม่เกี่ยวใดๆ กับเสือสิบเอ็ดตัวในยาดอง แต่เจ้าของนิทรรศการรีบแจงในหลายๆ ความบังเอิญของที่มาของชื่อว่า เพราะเป็นปีเกิด (เสือ) และนึกถึงรอบนักษัตรที่มี 12 ราศี ประจวบกับปีหน้าเป็นปีเสืออีก จึงรวมกันออกมาเป็นเสือตัวที่สิบสอง

สิปปวิชญ์ชอบวาดรูปสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยให้เหตุผลว่าชอบธรรมชาติซึ่งที่ใดมีธรรมชาติย่อมมีสัตว์ และที่ชอบอีกอย่างคือธรรมชาติของสัตว์นั่นเอง

“ผมวาดสัตว์ทั่วๆ ไป ทั้งสัตว์ในตำนาน สัตว์มงคล เพราะสัตว์มีความน่ารักอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประเภทไหนเขาจะมีมุมมองที่น่าดู มีความสวยงามอยู่ในตัวทุกประเภท ผมชอบธรรมชาติกับสัตว์เป็นของคู่กัน ที่ไหนมีธรรมชาติที่นั้นย่อมมีสัตว์ และชอบธรรมชาติของสัตว์ เมื่อก่อนผมวาดงานหลายแบบมาก แต่มาช่วงหลังๆปี 2535 เริ่มเน้นสัตว์”

วาดรูปสัตว์มาแล้วก็หลายประเภท แต่นับจากปี 2549 สิปปวิชญ์เน้นวาดเสือเพียงอย่างเดียว “ก่อนหน้านั้นก็วาดรูปเสือ แต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เมื่อก่อนทดลองมาทุกแนว วาดหมด พอมาถามตัวเองว่าเราชอบอะไร เราจะอยู่ตรงไหน ก็เลยรู้ว่าเราต้องเขียนรูปเสือ เพราะเขียนแล้วมีความสุขที่สุด มีความสุขกับการที่เราเก็บรายละเอียดของขนทีละเส้น เป็นงานที่ต้องใช้เวลา และทำให้เรามีสมาธินิ่งขึ้น ผมเก็บทุกเส้นเท่าที่ทำได้ เวลาเขียนขนจะใช้พู่กันเบอร์เล็กสุด คือเบอร์หนึ่ง เบอร์สอง จะไม่ใช่เบอร์ใหญ่แล้วเขี่ยๆ เอา แต่ผมจับทีละเส้นเลย ซึ่งตรงนี้ทำงานใช้เวลานาน ภาพเล็กใช้เวลาสามถึงสี่วัน ภาพใหญ่ก็กินเวลาเป็นเดือน ต้องควบคุมอารมณ์ เพราะถ้าเราคิดแต่เขียนไม่ได้ก็จะหงุดหงิด ซึ่งตรงนี้ผมอยากทำให้เหมือนก็สู้กับตรงนั้น เขียนยังไงให้คุณดูแล้วทึ่ง เขียนให้คนชมในความพยายามของคนเขียน”

เป็น เวลาสิบกว่าปีที่ศิลปินเขียนเสือ แต่ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกกลัว (เหมือนวัวแต่อย่างใด) เพราะเขาเลือกท่าทางเสือที่ไม่อยู่ในอารมณ์ดุร้าย

“เสือเป็นสัตว์น่ารัก ไม่น่ากลัว ผมไปอยู่ที่วัดเสือ ที่ จ.กาญจนบุรี ไปสังเกตสรีระ ท่าทางของเสือ การหาว การเดิน การคำรามของเขา ก็ถ่ายภาพมาเป็นข้อมูลผมไม่ค่อยเลือกท่าทางที่ดุร้าย มีเพียงไม่กี่ภาพ เพราะความเป็นเสือมีสัญชาตญาณของนักล่าอยู่แล้ว เสือทำท่าไหนคนก็เห็นว่าดุร้าย ผมจึงไม่ได้เลือกตรงนั้นมาแสดง ก็พยายามสื่อถึงความน่ารักออกมา”

ก่อนหน้านี้การสร้างงานของสิปปวิชญ์จะมีรายละเอียดมากกว่านี้ ซึ่งเขาพยายามจะลดทอนรายละเอียดลงเรื่อยๆ

“เมื่อก่อนงานจะมีรายละเอียดเยอะมาก เห็นฉากหลังหมด มีต้นไม้ มีบ้าน มีองค์ประกอบเยอะ แต่ตอนนี้ลดทอนออกมา ใช้ฉากหลังเป็นสีพื้นหมด อย่างใช้สีแดงก็แดงทั้งพื้น ไม่มีการไล่น้ำหนักสี ไม่มีการไล่เฉดสี ถ้าเอาเสือออกมามีแต่สีก็เป็นงานศิลปะแนวแอบสแทรกต์ พอเอาเสือลงไปก็กลายเป็นศิลปะแนวเหมือนจริง ซึ่งผมเน้นรายละเอียดในตัวเสือเยอะ เน้นตัวพระเอกคือตัวเสือ แต่งานในอนาคตก็จะลดทอนลงไปอีก เพราะตอนนี้ฉากกับเสือยังให้พื้นที่ห้าสิบห้าสิบ แต่ในอนาคตผมจะลดเสือลงมาให้พื้นที่สักเจ็ดสิบจะทำให้งานเป็นงานร่วมสมัย ขึ้นมา และเน้นเสือเพียงส่วนหนึ่งส่วนใด อย่างเน้นเฉพาะหน้า ตอนนี้งานผมยังเป็นงานภาพเหมือนที่ไม่ค่อยร่วมสมัยสักเท่าไหร่”

หากใครสนใจสามารถไปชมนิทรรศการเสือตัวที่สิบสองได้ที่ห้องริมสวน แกลเลอรี่ ชั้น 12 ของโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน จัดแสดงให้ชมตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 5 ธ.ค. เพราะถ้าพลาดครั้งนี้อาจต้องรอกันอีกนาน เพราะนานๆ ปีจริงๆ สิปปวิชญ์จึงจะจัดนิทรรศการเดี่ยว เนื่องด้วยที่ผ่านๆ มาเขาไปตระเวนสอนศิลปะให้เด็กๆ ตามจังหวัดต่างๆ และนับจากนิทรรศการครั้งนี้ไปอีก 5 ปี เขาจะหารายได้เพื่อนำไปสร้างศูนย์ศิลปะสอนเด็กๆ ฟรี ที่ทางขึ้นภูฝอยลม จ.อุดรธานี บ้านเกิด



http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=75897

ดูไบ 2 : ปัจจุบันอันรุ่งโรจน์ของดูไบ

ดูไบเมืองแห่งไข่มุกทะเลทรายที่เจิดจรัสเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าที่สำคัญมา ตั้งแต่อดีตสืบเนื่องยาวนานมาจนกระทั่งปัจจุบัน

หอคอยดูไบที่กำลังจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกเร็วๆนี

และดูไบก็ยังคงพยายามที่จะพัฒนาเมืองให้ยังคงความเป็นศูนย์กลางแห่งธุรกิจและการท่องเที่ยวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

การเดินทางสู่ดูไบในวันนี้ ภาพแรกที่เห็นเมื่อไปถึงจึงเต็มไปด้วยการก่อสร้างในแทบทุกส่วนของเมือง จนว่ากันว่าเครนกว่าครึ่งหนึ่งในโลกถูกนำมาใช้ที่ดูไบ เพื่อจะตอบสนองความต้องการในการก่อสร้างหลายสิ่งหลายอย่างที่ดูไบพยายามจะ ประกาศต่อโลกว่า ความเป็นที่สุดในโลกแทบทั้งหมดเกิดขึ้นที่นี่

สิ่งหนึ่งที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของดูไบ และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวรวมถึงผู้มาเยือนดินแดนทะเลทรายริมอ่าวเปอร์ เซียแห่งนี้ นั่นคือ Burj Al Arab ดูไบเนรมิตสิ่งนี้ขึ้นภายใต้แสงแดดที่แผดจ้า และผืนทะเลทรายอันแห้งแล้ง รวมถึงได้สร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้คนทั่วโลก เมื่อ Burj Al Arab ถูกเล่าขานว่าเป็นโรงแรมระดับเจ็ดดาวเพียงแห่งเดียวของโลก และยังเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก เพราะ Burj Al Arab มีความสูงกว่า 1,000 ฟุต ดูไบสร้าง Burj Al Arab บนเกาะเทียมชายฝั่งทะเล และเชื่อมต่อกับฝั่งผ่านทางสะพาน เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อเดือนธ.ค. 1999 และอาจถือว่าเป็นของขวัญต้อนรับศตวรรษที่ 21 ให้กับชาวดูไบก็ว่าได้

นอกจากนี้ Burj Al Arab ยังตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสวนน้ำขนาดมหึมาที่ชื่อ Wild Wadi ซึ่งอยู่ถัดจากโรงแรม Jumeirah Beach ที่สามารถมองเห็นได้จากห้องอาหารสุดหรูบนอาคาร Burj Al Arab และ Wild Wadi ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเย็นฉ่ำสดชื่นท่ามกลางทะเลทราย เช่นกัน รวมถึงอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่ดูไบลงทุนสร้างไว้ เพื่อที่จะบอกโลกว่าไม่มีอะไรในวันนี้ที่ดูไบทำไม่ได้นั่นคือ Snow Park และ Ski Dubai ที่ Mall of the Emirates ซึ่งเป็นลานสกีในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจำลองมาจากลานสกีในสวิตเซอร์แลนด์

นอกจากโรงแรมที่สูงที่สุดในโลกอย่าง Burj Al Arab สวนน้ำอย่าง Wild Wadi ลานสกีอย่าง Snow Park และ Ski Dubai ที่ Mall of the Emirates แล้ว ดูไบยังได้สร้าง Burj Dubai หรือที่รู้จักกันในชื่อ หอคอยดูไบ เพื่อจะให้เป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดของโลก มีความสูงกว่า 800 เมตร โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2004 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ สามารถเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการได้ในเดือนก.ย. 2009 ที่จะถึงนี้ และเมื่อเปิดใช้แล้วภายในอาคารที่สูงที่สุดในโลก จะประกอบไปด้วยโรงแรมสุดหรู อพาร์ตเมนต์ที่พักอาศัย สำนักงาน จุดชมวิวจากตัวอาคาร สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ และยอดสุดของอาคารเป็นเสาอากาศสื่อสาร และที่สำคัญภายใน Burj Dubai ยังได้เตรียมติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลกไว้อีกด้วย นอกจาก Burj Dubai แล้ว ดูไบยังมีโครงการสร้างอาคารที่สูงกว่า Burj Dubai ไว้อีกหนึ่งแห่งคือ Al Burj ที่ว่ากันว่าเมื่อแล้วเสร็จจะมีความสูงถึง 1,200 เมตร

Burj Al Arab โรงแรมสวยหรูที่สุดในโลก

สัญลักษณ์ อีกอย่างหนึ่งของดูไบที่เป็นที่กล่าวขวัญจนถึงทุกวันนี้คือ The Palm อลังการงานสร้างที่ดูไบยอมทุ่มทุนถมที่ในทะเลบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ให้เป็นรูปต้นปาล์มจำนวน 3 โครงการใหญ่ ที่เรียกกันว่า Jumeirah Jebel Ali และ Deira ซึ่งทำให้ดูไบมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลเพิ่มมากขึ้นอีกนับร้อยกิโลเมตร บนเกาะเทียมรูปต้นปาล์มนี้หลากหลายไปด้วยโรงแรมหรูหรา ที่อยู่อาศัย บ้านพัก อพาร์ตเมนต์ สวนสนุก ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน และที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็น Atlantis โรงแรมหรูหราแห่ง The Palm Jumeirah ซึ่งเป็นโรงแรมสุดหรูที่มี Aquarium ขนาดใหญ่อยู่ภายในโรงแรม และตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ และเป็นที่นิยมของบุคคลสำคัญในการไปพักที่นี่เมื่อไปเยือนดูไบนอกเหนือจาก โครงการพัฒนาที่พักอาศัย โรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แล้ว ดูไบในวันนี้ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น ยังคงเร่งพัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่อทำให้เห็นว่าจะช่วยส่งเสริมให้ดูไบเป็นอันดับหนึ่งของเมืองศูนย์กลาง ท่องเที่ยว และแน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวคือสถานที่จับจ่ายใช้สอย หรือช็อปปิ้ง ดูไบจึงสร้างสิ่งที่เรียกว่า Dubai Mall ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดใหญ่ประมาณพื้นที่ของสนามฟุตบอล 50 สนาม ด้วยเม็ดเงินลงทุนนับหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ มีร้านค้ากว่า 1,200 ร้าน และมีสินค้ากว่า 600 แบรนด์ดังทั่วโลกรวมกันที่นี่ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนดูไบให้ได้รับความสะดวก สบายครบครันตามความต้องการ

ท่ามกลางความตื่นตาตื่นใจต่อการเนรมิตเมืองใหม่ของดูไบ สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่และเป็นมนต์เสน่ห์ของเมืองทะเลทราย และไม่ควรพลาดของนักท่องเที่ยวในการมาเยือนดูไบ คือการออกไปเยือนทะเลทราย ไม่ว่าจะเป็นการขี่อูฐ พาหนะเจ้าถิ่นของดินแดนแถบนี้ หรือเลือกนั่งบนรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ผจญภัยไปกับ Sand Dune ที่ทอดตัวราวกับคลื่นในทะเลทราย จวบจนกระทั่งพระอาทิตย์โบกมือลาขอบฟ้า แล้วจึงอิ่มเอมกับอาหารมื้อค่ำของชาวพื้นเมือง อบอวลไปด้วยกลิ่นของชิชา พร้อมๆ กับการดูระบำพื้นเมืองอันเลื่องชื่อ ในค่ำคืนอันมืดมิดท่ามกลางผืนทรายใต้ทะเลดาว จนทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสจดจำดูไบไว้ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน

Atlartis โรงแรมสุดหรูแห่ง The Palm Jumeirah

ความ พยายามในการเนรมิตเมืองของดูไบยังมีอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง และไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ขั้นวิกฤต ส่งผลให้การก่อสร้างหลายอย่างต้องชะลอล่าช้าออกไป แต่ไม่ได้หมายความว่าดูไบจะหยุดอยู่เพียงเท่านี้ โครงการใหญ่อีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงรอคอยให้ดูไบสานต่อ เพื่อสืบทอดปัจจุบันอันรุ่งโรจน์ ให้ก้าวไปสู่อนาคตอันเจิดจรัส สายตาจากทั่วทุกมุมโลกจึงได้แต่เฝ้ารอดูว่า ดูไบจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ และผงาดกลับมาเป็นเมืองแห่งไข่มุกทะเลทรายอันเจิดจรัสได้อีกครั้งหรือไม่

การตกแต่งภายใน Atlantis
Dubai Mall แหล่งช็อปปิ้งที่รวมเอาแบรนด์ดังทั่วโลกมาไว้ที่นี่
ห้องพักของโรงแรม Burj Al Arab
ที่มา :

ดูไบ 1: อดีตอันรุ่งเรืองของดูไบ

ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา รายการโลก 360 องศา มีโอกาสได้เดินทางไปถ่ายทำยังประเทศต่างๆ ในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก

ทำ ให้มีโอกาสได้เรียนรู้และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเมืองใหม่ที่เพิ่งไป ถึงกับเมืองก่อนหน้าที่เคยได้ไปเยือน หลายเมืองในต่างประเทศมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน มีอดีตอันรุ่งโรจน์ และขณะเดียวกันก็ยังคงสามารถเก็บรักษาภาพความรุ่งเรืองในอดีตเอาไว้ได้ พร้อมๆ กับการพัฒนาเมืองให้เจริญรุดหน้าในสังคมยุคโลกาภิวัตน์ได้เช่นกัน

เมื่อ เอ่ยชื่อ “ดูไบ” เชื่อว่าคงอยู่ในความสนใจของใครหลายๆ คน ทั้งชาวไทยและชาวโลกในขณะนี้ ดูไบเป็นหนึ่งในเมืองที่รายการโลก 360 องศา ไปเยือนแล้วค้นพบว่า เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีต และขณะเดียวกันในปัจจุบันก็กำลังเพียรพยายามพัฒนาเมืองให้เป็นศูนย์กลางการ ท่องเที่ยวและธุรกิจของโลก ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังส่งผลสืบเนื่อง เฉกเช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ในแทบทุกประเทศ

หลายคนอาจเข้าใจว่า “ดูไบ” เป็นชื่อของประเทศ แต่แท้จริงแล้วดูไบเป็นชื่อรัฐ 1 ใน 7 ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน อีกทั้งเคยเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจในอดีตสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้นประกอบด้วย 7 รัฐ มีรัฐอาบูดาบีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นเมืองหลวงของประเทศ โดยมีดูไบเป็นรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ห่างจากเมืองหลวงอาบูดาบีประมาณ 180 กิโลเมตร มีพื้นที่ราว 3,000 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 1.7 ล้านคน โดยประชากรส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์นับถือศาสนาอิสลาม แต่ละรัฐของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้นปกครองโดย Sheikh หรือเจ้าผู้ครองนครรัฐนั่นเอง และ Sheikh ของดูไบคนปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกด้วย ดูเหมือนว่าดูไบจะโดดเด่นในสายตาชาวโลกมากกว่าเมืองหลวงของประเทศเสียอีก

บันทึกทางประวัติศาสตร์กล่าวถึงความรุ่งเรืองของดูไบในอดีตนับตั้งแต่ราว ปีค.ศ. 1833 ชนเผ่า Bani Yas ซึ่งนำโดยคนในตระกูล Maktoum ที่ยังคงปกครองประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ได้อพยพผู้คนมาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณปากอ่าวเปอร์เซีย มีการทำประมง และทำฟาร์มไข่มุก ต่อมาไม่นานดูไบก็กลายเป็นเมืองที่รุ่งเรืองมั่งคั่ง เป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเล การประมง อุตสาหกรรมไข่มุก และตลาดทองคำ หรือที่เรียกกันว่า Gold Souk ที่ใหญ่ที่สุดในย่านตะวันออกกลาง ด้วยพื้นฐานของการเป็นเมืองที่ปลอดภัย และมีการเรียกเก็บภาษีต่ำ ทำให้พ่อค้าจากทั่วโลกพากันเดินเรือมาค้าขายที่ดูไบ ต่อมายังมีการค้นพบแหล่งน้ำมันดิบที่ดูไบ ทำให้ดูไบกลายเป็นเมืองที่มีอิทธิพล และร่ำรวยขึ้นจากเดิมอีกมากมายหลายเท่า

สถาน ที่สำคัญที่ดูเหมือนจะบอกเล่าเรื่องราวของดูไบในอดีตได้ดีที่สุดคือ พิพิธภัณฑ์ดูไบ ซึ่งตั้งอยู่ที่ป้อม Al Fahidi ป้อมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1787 และมีการบูรณะให้เป็นพิพิธภัณฑ์ดูไบ ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจำลองให้เห็นบ้านแบบอาหรับ โดยมีเอกลักษณ์สำคัญคือ Wind Tower หรือปล่องลมที่ช่วยระบายความร้อนทำให้บ้านเย็นสบาย Wind Tower นี้ยังพบเห็นได้ในย่านเมืองเก่าของดูไบโดยเฉพาะแถบ Bastakiya ใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑ์ดูไบนั่นเอง นอกจากนี้ยังจำลองภาพการใช้ชีวิตในทะเลทราย วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การแต่งกาย อาหารการกิน และบ้านเรือนของผู้คนในอดีต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนแถบนี้ ที่พลาดไม่ได้ในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ดูไบคือ ภาพจำลองอุตสาหกรรมการทำมุกและการค้ามุกที่ส่งผลให้ดูไบเป็นเมืองที่เต็มไป ด้วยความมั่งคั่งนับตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่อยู่คู่ดูไบมายาวนานพร้อมๆ กับการเกิดของดูไบนั่นคือ The Creek หรือชื่อเรียกลำน้ำสายใหญ่ที่พาดผ่านเมือง และแบ่งดูไบออกเป็น 2 ส่วน คือ Deira และ Bur Dubai ว่ากันว่า Creek คือเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในดูไบมายาวนาน สองฝั่งของ Creek คืออดีตชุมทางการค้าที่เคยรุ่งเรือง ซึ่งขณะนี้เต็มไปด้วยตึกสูงตามความเจริญของยุคสมัยและจุดมุ่งหมายแห่งการ พัฒนาเมือง แต่ Abra เรือไม้แบบดั้งเดิมที่ใช้ข้ามฟากระหว่าง Deira และ Bur Dubai ก็ยังคงเป็นที่นิยมของชาวดูไบผู้มีรายได้น้อย และนักท่องเที่ยวที่ปรารถนาจะสัมผัสวิถีชีวิตในอดีตของเมืองดูไบ

ถึงแม้ดูไบจะมีทรัพยากรน้ำมันอย่างเหลือเฟือและสร้างรายได้มหาศาลในแต่ละ ปี แต่ผู้ปกครองของดูไบกลับมีความพยายามให้ดูไบพึ่งพารายได้จากน้ำมันน้อยลง ทุกวันนี้ดูไบจึงหันไปพัฒนาและลงทุนด้านการขนส่ง สาธารณูปโภค สิ่งก่อสร้าง โรงแรม ที่อยู่อาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อผลักดันให้ดูไบเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และนำรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวเป็นกลไกการขับเคลื่อนธุรกิจของดูไบแทนการ พึ่งพารายได้จากการขายน้ำมัน จึงไม่น่าแปลกใจว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางไปดูไบจะเห็นตึกสูงอวดโลโก้ของ บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น EMC Corporation, Oracle, Microsoft, IBM รวมไปถึงสำนักข่าวสำคัญๆ เช่น NBC, CNN, BBC, Reuters, Sky News และ AP ดูไบจึงเป็นที่จับตามองของนักลงทุนต่างชาติที่พากันเบนเข็มขนเม็ดเงินเข้ามา ลงทุนกันอย่างมหาศาล รวมถึงยังกลายเป็นขุมทองแห่งใหม่ของแรงงานที่หลั่งไหลเข้ามาทำมาหากินใน เมืองซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างทวีปยุโรป เอเชีย และแอฟริกาแห่งนี้

หากไม่นับพิพิธภัณฑ์และส่วนที่เป็นเมืองเก่า รวมถึงภาพวิถีชีวิตสองฝั่ง The Creek แล้ว ดูไบในวันนี้จึงเป็นเมืองใหม่ที่กำลังรุ่งเรืองไปตามยุคสมัย เต็มไปด้วยอาคารสูงที่มีทั้งแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างก่อสร้าง ถนนหนทางกำลังถูกขยายให้กว้างขวาง ท่าเรือใหญ่ทั้ง 2 แห่ง คือ Port Rashid และ Port Jebel Ali ที่ยังคงเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง รองรับการเป็นศูนย์กลางการค้า ผลักดันให้ดูไบเป็นเมืองที่ผงาดขึ้นมาเป็นรัฐที่มีอำนาจ ทำให้รายได้ประชากรของชาวดูไบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเมืองที่โดด เด่นที่สุดของอาหรับ

ที่มา โพสต์ทูเดย์

โรงซึมเศร้า/การรักษาด้วยยา

การรักษาด้วยยา

การรักษาหลักในปัจจุบันได้แก่ การใช้ยาแก้เศร้า (antidepressants) โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ผู้ป่วยมีอาการมากอยู่ การทำจิตบำบัดบางชนิดพบว่าได้ผลในการรักษาพอ ๆ กันกับการใช้ยา โดยเฉพาะในรายที่อาการไม่รุนแรง แต่จะไม่กล่าวถึงในที่นี้เนื่องจากมุ่งเน้นการรักษาที่แพทย์ทั่วไปสามารถนำ ใช้ได้.


การรักษาแบ่งออกเป็นสามระยะตามการดำเนินโรค โดยการรักษาในระยะเฉียบพลันมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดอาการของผู้ป่วย การรักษาระยะต่อเนื่องเป็นการคงยาต่อแม้ว่าผู้ป่วยปกติดีแล้วทั้งนี้เพื่อ ป้องกันการเกิดกลับมาป่วยซ้ำ และในผู้ป่วยบางรายอาจต้องให้การรักษาระยะยาวเพื่อป้องกันการเกิดอาการป่วย ซ้ำของโรค.


การรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้านั้นอาการไม่ได้ดี ขึ้นภายในวันสองวัน, ยาบางตัวมีฤทธิ์ข้างเคียงที่ผู้ป่วยทนไม่ได้ อีกทั้งต้องใช้เวลาในการรักษาอยู่หลายเดือน ทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งขาดการติดตามการรักษาไป. การให้ข้อมูลและคำแนะนำต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเพิ่มความร่วมมือในการรักษาของผู้ป่วย โดยเฉพาะเรื่องฤทธิ์ข้างเคียงของยา, ระยะเวลาที่อาการจะดีขึ้น รวมทั้งยาที่ให้นั้นมิใช่ยานอนหลับและไม่มีการติดยา.


ยาแก้ เศร้าทุกตัวไม่ได้ออกฤทธิ์รักษาอาการซึมเศร้าทันที โดยทั่วไปจะเห็นผลหลังจากได้ยาไปแล้ว 1-2 สัปดาห์ ในบางรายอาจนานกว่านี้. อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้ผู้ป่วยจะรู้สึกดีขึ้นจากผลด้านอื่น ๆ ของยา เช่น หลับได้ดีขึ้น, เบื่ออาหารลดลง, ความวิตกกังวลลดลง เป็นต้น


ยาแก้เศร้าอาจแบ่งคร่าว ๆ ออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มที่มีโครงสร้างเป็นแบบ tricyclic และยากลุ่มใหม่ซึ่งสังเคราะห์ขึ้นมาในช่วงไม่นานมานี้.


ข้อดีของยาในกลุ่ม tricyclic คือ เป็นยาที่ใช้ในการรักษามานานจนทราบกันดีถึงอาการข้างเคียงของยาแต่ละตัว, ประสิทธิภาพเป็นที่ยืนยันแน่นอน ทั้งในการรักษาระยะเฉียบพลันและการป้องกันระยะยาว, และราคาถูก.


ประสิทธิภาพ ในการรักษาของยาแก้เศร้าแต่ละตัวนั้นไม่ต่างกัน ความแตกต่างอยู่ที่ฤทธิ์ข้างเคียง ซึ่งรวมถึงยาในกลุ่มใหม่ด้วยเช่นกัน ในการเลือกใช้ยาเราพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ตามลำดับ


หากเป็นผู้ป่วยที่เคยป่วยและรักษาหายมาก่อน ประวัติการรักษาเดิมมีความสำคัญ โดยผู้ป่วยมักตอบสนองต่อยาตัวเดิม และขนาดเดิมที่เคยใช้ ดังนั้นจึงควรใช้ยาขนานเดิมเป็นตัวแรก


เกร็ดข้อควรจำกับคำถามที่มักเกิดขึ้นบ่อย

ยาที่รักษาอาการซึมเศร้ามักออกฤทธิ์โดยการไปเพิ่มระดับของสาร Serotonin ในสมองโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลของยาชัดเจน ดังนั้นเราจะต้องไม่ใจร้อน ถ้าอาการเศร้าของเรายังไม่ดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน ก็จงกินยาต่อตามแพทย์สั่งเมื่อสองสัปดาห์ผ่านไปเราก็จะรู้สึกอาการดีขึ้น


เมื่อเริ่มมีอาการดีขึ้นแล้วสิ่งที่ต้องจำไว้ก็คือ จะต้องกินยาต่อเพราะอาการที่เริ่มดีขึ้น ไม่ได้หมายความว่าหายดีแล้วในสัปดาห์ต่อไปที่กินยาอาการของเราจะดีขึ้นอีก ความรู้สึกเศร้าจะลดลง จิตใจจะแจ่มใสขึ้น แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นเราควรจะปรึกษาแพทย์เพราะอาจจะต้องมีการปรับขนาดของยา ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น


1. จะหยุดยาเมื่อไหร่


แพทย์ จะเป็นผู้กำหนดว่าเราควรหยุดยาเมื่อไหร่ สิ่งสำคัญที่ต้องระลึกถึงก็คือ ถ้าเราหยุดยาก่อนเวลาอันควรหรือก่อนที่ระดับ Serotonin ในสมองจะกลับสู่ปกติอาการซึมเศร้าก็อาจกำเริบได้ โดยทั่วไปแพทย์จะให้กินยาต่อประมาณ 4 – 6 เดือน หลังจากที่เริ่มมีอาการดีขึ้นแล้ว ดังนั้นถ้าเราจำเป็นจะต้องหยุดยาก็ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อน โดยทั่วไปไม่มีผลเสียใดๆจากการกินยาเป็นเวลายาวนาน


2. ข้อห้ามของการใช้ยา


การ ใช้ยารักษาโรคซึมเศร้านั้น จำเป็นต้องทำด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะถ้าผู้ป่วยมีโรคทางกายอื่นๆ หรือกำลังกินยาชนิดอื่นอยู่ด้วย ดังนั้นเราควรแจ้งให้แพทย์ที่ดูแลทราบโดยละเอียดว่าเราป่วยเป็นโรคใดและ กำลังกินยาชนิดใดอยู่บ้าง


3. ผลข้างเคียงของยา


ถ้า เรากินยาตามขนาดและเวลาที่แพทย์สั่ง ก็มักจะไม่พบผลข้างเคียงใดๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางคนอาจมีความไวต่อยาและเกิดอาการข้างเคียงบางประการในช่วงแรก เช่น อาจมีอาการ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ง่วงนอน หรือนอนไม่หลับ เป็นต้น แต่อาการเหล่านี้จะหายไปภายในสองสัปดาห์เมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวได้ โดยทั่วไปอาการข้างเคียงมักเป็นไม่รุนแรงและสามารถหายเองได้ แต่ถ้าเราเกิดอาการไม่สบายขึ้นมาอย่างมากเราก็ควรจะปรึกษาแพทย์


4. ทำอย่างไรจึงจะไม่ลืมกินยา


ยา แก้อาการซึมเศร้าจะเกิดผลดีต่อเมื่อกินทุกวันอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องไม่ลืมกินยา วิธีที่จะช่วยไม่ให้ลืมก็โดยวางยาไว้ในที่ซึ่งเรามองเห็นง่าย ( แต่ต้องระวังอย่าให้เด็กหยิบได้ ) และกินให้เป็นเวลา เช่นทุกวันหลังอาหารเย็น หรือหลังจากแปรงฟัน หรือก่อนเข้านอน เป็นต้น


ถ้า เราลืมกินยาตามเวลา ก็ให้กินยาทันทีที่นึกได้ และกินมื้อต่อไปตามกำหนดเดิม แต่ถ้าวันไหนเราลืมกินยาก็ไม่ต้องเพิ่มขนาดในวันต่อไป แต่ให้กินตามขนาดและเวลาเดิม


5. จะมีอาการซึมเศร้าอีกไหม


คน บางคนอาจมีอาการซึมเศร้าเพียงหนึ่งหรือสองครั้งในชั่วชีวิตแต่บางคนก็อาจมี อาการหลายครั้ง ผู้ที่มีอาการมาหลายครั้งแล้ว ก็มักจะมีอาการซึมเศร้าครั้งใหม่ในเวลาไม่นานนัก


Image เนื่องจากโรคซึมเศร้ามักมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต สัมพันธภาพ การงานและการศึกษาเล่าเรียนมาก แพทย์อาจแนะนำให้เรากินยานานกว่า 6 เดือน เพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีอาการกำเริบอีก ดังนั้นเราควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ที่มาของข้อมูล: คู่มือโรคซึมเศร้า, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข หน้า 35-42

ดาวโหลดเอกสารเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าเพิ่มเติม

รู้จักโรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้า เป็นโรคหนึ่งซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วง ชีวิตของคนเรา เหมือนกับโรคทางกายอื่นๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นนั้นจะเป็นคนอ่อนแอ ล้มเหลว หรือไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพียงการเจ็บป่วยอย่างหนึ่ง เกิดได้ทั้งมีสาเหตุ เช่น การสูญเสีย การหย่าร้าง ความผิดหวัง



คำถามต่อไปนี้จะถามถึงประสบการณ์ของท่านในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ท่านสำรวจตัว ท่านเองและประเมินเหตุการณ์ อาการหรือความคิดเห็นและความรู้สึกของท่านว่าอยู่ในระดับใด


1. รู้สึกจิตใจหม่นหมองหรือไม่ (เกือบตลอดทั้งวัน)

2. รู้สึกเป็นทุกข์จนอยากร้องไห้

3. รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก

4. รู้สึกไม่มีความสุข หมดสนุก กับสิ่งที่เคยชอบและเคยทำ

5. รู้สึกผิดหวังในตนเอง และโทษสิ่งที่เกิดขึ้น

6. รู้สึกสูญเสียความเชื่อมั่นในตนเอง

7. รู้สึกอยากอยู่คนเดียวไม่อยากสุงสิงกับใคร

8. รู้สึกตนเองไม่มีคุณค่า

9. คิดอะไรไม่ออก

10. หลงลืมง่าย

11. คิดอะไรได้ช้ากว่าปกติ

12. ทำอะไรอืดอาด เชื่องช้ากว่าปกติ

13. รู้สึกอ่อนเพลียง่ายเหมือนไม่มีแรง

14. รู้สึกเบื่ออาหาร กินได้น้อยกว่าเดิม

15. นอนหลับๆ ตื่นๆ หลับไม่สนิท



ถ้าตอบว่า 'มี' ตั้งแต่ 6 ข้อขึ้นไป หมายถึง มีภาวะซึมเศร้า ควรได้รับบริการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หรือพบแพทย์เพื่อการบำบัดรักษา


Image โรคซึมเศร้าเป็นโรคหนึ่งซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงชีวิตของคนเรา เหมือนกับโรคทางกายอื่นๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นนั้นจะเป็นคนอ่อนแอ ล้มเหลว หรือไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพียงการเจ็บป่วยอย่างหนึ่ง เกิดได้ทั้งมีสาเหตุ เช่น การสูญเสีย การหย่าร้าง ความผิดหวัง และเกิดได้เองโดยไม่มีสาเหตุใดๆ ซึ่งในปัจจุบันโรคนี้สามารถรักษาหายได้ด้วยการใช้ยา การรักษาทางจิตใจ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน


จากรายงานการศึกษาของธนาคารโลกร่วมกับ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้วิจัยออกมาว่า ในปี 2020 โรคซึมเศร้าจะเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลกอันดับที่ 2 รองลงมาจากโรคหัวใจหลอดเลือด เพราะปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม อย่างไรก็ตามสถานการณ์โรคซึมเศร้าในประเทศไทยถือเป็นปัญหาที่เฝ้าจับตามอง อันดับ 4 ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมต้องให้ความสำคัญ เพราะโรคซึมเศร้าเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก

สาเหตุของโรคซึมเศร้า


หากมีประวัติการเจ็บป่วย โรคนี้ในญาติของท่าน ก็เพิ่มการป่วยโรคนี้กับสมาชิกอื่นในบ้าน แต่ก็มิได้หมายความว่า จะเป็นกันทุกคน ปัจจัยที่กระตุ้นให้คนที่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ มีโอกาสเกิดอาการก็คือ ความเครียด แต่ทั้งนี้คนที่ไม่มีญาติเคยป่วยก็อาจเกิดเป็นโรคนี้ได้ มักพบว่าผู้ป่วยโรคนี้จะมีความผิดปกติของระดับสารเคมี ที่เซลล์สมองสร้างขึ้น เพื่อรักษาสมดุลย์ของอารมณ์
Image

สภาพ จิตใจที่เกิดจากการเลี้ยงดูก็เป็นปัจจัยที่เสี่ยงอีกประการหนึ่ง ต่อการเกิดโรคซึมเศร้าเช่นกัน คนที่ขาดความภูมิใจในตนเองมองตนเอง และโลกที่เขาอยู่ในแง่ลบตลอดเวลา หรือเครียดง่าย เมื่อเจอกับมรสุมชีวิต ล้วนทำให้เขาเหล่านั้นมีโอกาสป่วยง่ายขึ้น


นอกจากนี้ หากชีวิตพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ต้องเจ็บป่วยเรื้อรัง ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดไม่ราบรื่น หรือต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ไม่ปรารถนา ก็อาจกระตุ้นให้โรคซึมเศร้ากำเริบได้


สาเหตุที่จะกระตุ้นการ เกิดโรคซึมเศร้าที่พบบ่อยก็คือ การมีทั้งความเสี่ยงทางพันธุกรรม ทางสภาพจิตใจ ประจวบกับการเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย ร่วมกันทั้ง 3 ปัจจัย


มี ผู้ที่ฆ่าตัวตายมากถึงร้อยละ 60 ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โดยคนที่เป็นโรคนี้ เมื่อประสบกับความผิดหวังหรือปัญหาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว ความรัก หรือการศึกษา ผู้ป่วยจะเกิดความคิดฆ่าตัวตายได้ง่ายกว่าคนปกติถึง 3 เท่า จากการสำรวจประชากรไทยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึงร้อยละ 5 หรือกว่า 3 ล้านคน ยังไม่รวมถึงคนที่ไม่รู้ตัวเองว่าป่วย และโรคนี้มีการถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมจากพ่อแม่สู่ลูกอีกด้วย


โรคซึมเศร้าเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองชื่อ เซโรโทนิน (Serotonin) มีปริมาณลดลงImage ทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกท้อแท้ หงอยเหงา เบื่อหน่าย ไม่สนุกสนานกับชีวิต นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลางดึก ฝันร้ายบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบให้ความสามารถในการทำงานลดลง ซึ่งโรคนี้มีการถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมจากพ่อแม่สู่ลูกได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่ป่วยจะต้องอยากฆ่าตัวตายเสมอไป ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมและปัจจัยกระตุ้นด้วย



ลักษณะของคนที่ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามักจะชอบแยกตัวอยู่คนเดียว ย้ำคิดย้ำทำ เชื่องช้า ซึม เก็บตัว ชอบพูดเปรยว่าถ้าไม่มีเขาอะไรคงจะดี และพูดสั่งเสียอยู่เรื่อยๆ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการหนักราว 2-3 เดือน ถือเป็นช่วงอันตรายที่สุด เพราะมีโอกาสคิดสั้นฆ่าตัวตายสูงมาก หากมีเรื่องกระทบจิตใจเพียงนิดเดียว แต่ถ้าพ้นช่วงนี้ไปได้ก็จะกลับสู่ภาวะปกติซึ่งอาการของโรคจะกำเริบเมื่อไร ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าบางคน 1-2 ปี จึงจะออกอาการ บางคนเพียง 6 เดือนแต่ถ้ารู้ว่าตัวเองป่วยก็สามารถรักษาให้หายได้ ด้วยการเข้าพบจิตแพทย์และกินยาตามที่แพทย์สั่ง



โรคซึมเศร้ากับปัญหาการฆ่าตัวตายในวัยรุ่น


ข้อมูลทั่วไปที่ได้จากการศึกษาวิจัยของกรมสุขภาพจิต ในการศึกษาปัญหาการฆ่าตัวตายในนักเรียนมัธยมปลาย ปี พ.ศ. 2547


จาก การวิจัย เรื่องความคิดอยากฆ่าตัวตายของนักเรียนระดับมัธยมปลายและระดับ ปวช.ทั่ว กทม.พบว่ามีเด็กนักเรียน 1 ใน 10 คน มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย โดยเป็นเด็กระดับ ปวช.มากถึงร้อยละ 15.7 Imageมากกว่า นักเรียนระดับมัธยมปลายกว่าเท่าตัว ในจำนวนนี้สาเหตุของการฆ่าตัวตายมี 3 ปัจจัยหลัก คือโรคซึมเศร้าเกิดจากกรรมพันธุ์และความเครียดจากสภาพแวดล้อม การโดนทารุณกรรมในวัยเด็ก ซึ่งส่งผลต่อจิตใจและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง เด็กกลุ่มนี้จะชอบความท้าทาย กิจกรรมเสี่ยงต่อการเจ็บตัว อารมณ์รุนแรงควบคุมอารมณ์ยาก และการใช้สารเสพติด โดยเฉพาะยาเคและสารระเหย


จาก การสอบถามถึงปัญหาในเชิงลึกกับกลุ่มนักเรียนทั้ง 2 กลุ่มพบว่า กลุ่มนักเรียนอาชีวะมีปัญหาทางบ้านและเศรษฐกิจมากกว่ากลุ่มมัธยม โดยส่วนหนึ่งยอมรับว่า เคยถูกทารุณกรรมในวัยเด็กมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการถูกทุบตีอย่างไม่มีเหตุผล หรือการทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ทั้งนี้ กลุ่มเด็กที่มีพฤติกรรมการใช้ยาเสพติดเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายมาก ที่สุด เพราะมีอัตราการทำร้ายตัวเองสูงอารมณ์รุนแรง ควบคุมไม่ค่อยได้ และมักไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาเมื่อลงมือทำไปแล้ว


กลุ่มเด็กที่ ต้องเฝ้าจับตามองเป็นพิเศษคือเด็กที่มีอาการซึม ชอบเก็บตัว ร้องไห้ง่าย เบื่ออาหาร การเรียนตก มีประวัติทำร้ายตัวเองและใช้ยาเสพติด เพราะเด็กที่มีพฤติกรรมเหล่านี้บ่งบอกถึงอาการของโรคซึมเศร้า และมีปัญหาในชีวิต โอกาสที่จะตัดสินใจทำเรื่องรุนแรงต่อร่างกายเป็นไปได้สูงกว่ากลุ่มเด็กที่มี ลักษณะปกติ อาจารย์และผู้ปกครองควรเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด


จาก การสำรวจสุขภาพจิตและการใช้สารเสพติดของวัยรุ่นในสถานศึกษา ปี 2547 ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบนักเรียนระดับมัธยมปลายและ ปวช. มีภาวะซึมเศร้าถึงร้อยละ 16.41 หรือราว 1 ใน 6 คนจะมีภาวะซึมเศร้าโดยนักเรียนใน กทม.มีภาวะซึมเศร้าสูงสุดถึงร้อยละ 20.63 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17.28 ภาคใต้ ร้อยละ 15.60 ภาคเหนือ ร้อยละ 15.15 และภาคกลาง ร้อยละ 14.14 ซึ่งมีสาเหตุจากครอบครัวแตกแยก ปัญหาการเงิน และการเรียน


โรคซึมเศร้านั้นมักถูกมองข้ามเนื่องจาก


1. ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาพบแพทย์ด้วยอาการทางร่างกาย Image ทั้งนี้เนื่องจากไม่ทราบว่าการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์และจิตใจของตนนั้น เป็นอาการของโรค.


3. ผู้ป่วยที่แพทย์พบในแต่ละวันนั้นมักป่วยด้วยโรคทางร่างกาย ดังนั้นการซักถามส่วนใหญ่จึงเน้นถึงอาการด้านร่างกายเป็นหลัก. ทำให้ปัญหาซึมเศร้าของผู้ป่วยบางรายอาจจะได้รับการตอบสนองเพื่อการรักษาตาม อากการทางกายที่ปรากฎ เช่น ผู้ป่วยบางรายมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดต่างๆ อาทิปวดศรีษะ ปวดหลัง เป็นต้น


ความคิดอยากตาย หรือคิดฆ่าตัวตายนั้นพบบ่อยในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า. เมื่อศึกษาย้อนหลังในผู้ที่ฆ่าตัวตายสำเร็จพบว่าเป็นมีปัญหาซึมเศร้าถึงร้อย ละ 45-64 ดังนั้นในผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทุกรายต้องถามถึงเรื่องความคิดฆ่าตัวตาย เพื่อประเมินความเสี่ยงซึ่งมีผลต่อการพิจารณาแนวทางในการช่วยเหลือ.


การช่วยเหลือผู้ป่วยด้านจิตใจเบื้องต้น


ผู้ป่วยมักมีแนวคิดในแง่ลบ มองว่าตนเองมีอาการมาก
, เป็นโรคที่รักษาไม่หาย หรือไม่มีใครเป็นแบบตน. การบอกอาการและการวินิจฉัยแก่ผู้ป่วยโดยเน้นว่าเป็นปัญหาที่พบได้ไม่น้อย แพทย์ผู้รักษาพบผู้ป่วยในลักษณะนี้อยู่เสมอ ๆ และเป็นโรคที่การรักษาได้ผลดี พบว่ามีส่วนช่วยผู้ป่วยมาก


ผู้ป่วยอาจแจ้งอาการทางร่างกายต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะ, ใจสั่น, ปวดหลัง, ชา, ร้อนตามตัว ซึ่งแพทย์มักชี้แจงว่าตรวจร่างกายแล้วพบว่าปกติ อาการเหล่านี้เป็นจากผู้ป่วยคิดไปเอง. จากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยาที่เป็นต้นเหตุของ อาการเหล่านี้จริง. พร้อมกันนั้นการมีแนวคิดในแง่ลบ, สนใจร่างกายตนเองมากกว่าปกติของผู้ป่วยทำให้ดูอาการมีมากขึ้น เมื่อโรคซึมเศร้าดีขึ้นอาการทางร่างกายเหล่านี้จะดีขึ้นตาม. ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยแจ้งอาการเหล่านี้ควรรับฟัง แสดงความเข้าใจ และอธิบายว่าเป็นอาการที่มักพบร่วมกับโรค จะดีขึ้นเมื่อรักษา


การพบญาติผู้ป่วยมีความสำคัญในสังคมไทย. นอกจากเพื่อประเมินอาการและปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว การถามความคิดเห็นของญาติที่มีต่อผู้ป่วยโรค, ชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิด, พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่ญาติในการช่วยเหลือผู้ป่วยนั้นมีความสำคัญมาก. ผู้ป่วยส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาญาติหรือครอบครัว และญาติมักเป็นผู้ที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์ในแต่ละครั้ง.

การรักษาด้วยยา>>

นาฬิกาชีวิตวิถีแห่งธรรมชาติ


Imageนาฬิกา ชีวิตกับร่างกายมนุษย์ กฎเกณฑ์ธรรมชาติเกิดได้อย่างไร เชื่อว่าเกิดจาก 2 ปัจจัยคือ ปัจจัยภายในของสิ่งมีชีวิตเอง ซึ่งคงความเป็นกฎเกณฑ์เฉพาะตัว เมื่อได้รับปัจจัยภายนอกจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้ร่างกาย มีการปรับสภาพภายใน

จนสามารถส่งทอดลักษณะการทำงานนั้นไปยังลูกหลาน เป็นการถ่ายทอดพันธุกรรม

Mills นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ตัวกำหนดนาฬิกาหลัก น่าจะอยู่ที่ระบบประสาทส่วนกลางคือ สมอง ซึ่งควบคุมนาฬิกาย่อยๆ ในระบบต่างๆ ของร่างกาย

ศูนย์ควบคุมนี้อยู่ที่ส่วนไหนของสมอง

จาก การสังเกตพบว่า บริเวณ Supraoptic nucleus ถูกทำลายจะส่งผลกระทบต่อกฎเกณฑ์การหลั่งฮอร์โมนของต่อมไพเนียลและต่อมหมวกไต พฤติกรรมการดื่มน้ำ การเคลื่อนไหวถูกแปลงไปหมด แสดงว่า Supraoptic nuckeus น่าเป็นจุดศูนย์กลางควบคุมนาฬิกาชีวิตของร่างกาย

ต่อมไพเนียลมีส่วน ประกอบของ 5 HT ปริมาณมาก ซึ่งเป็นสารที่สามารถเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเมลาโทนิน เมื่อมีแสงมากระตุ้นประสาทการรับแสงบริเวณจอตา จะมีการส่งกระแสประสาทผ่านไปยัง Supraoptic nuckeus จะมีการยับยั้งการทำงานของต่อมไพเนียล ทำให้การหลั่งเมลาไทนินน้อยลง ในทางกลับกันเมื่อไม่มีแสงหรือในท่ามกลางความมืด ระบบประสาทซิมพาเธติกจะถูกกระตุ้น มีการหลั่งสารนอร์อะดรีนาลิน เพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมไพเนียล ทำให้มีการสร้างเมลาโทนินมากขึ้น

แสง สว่าง ความมืด มีผลต่อ 5 HT และฮอร์โมนเมลาโทนิน มีผลกระทบต่อกฎเกณฑ์การนอนหลับของคน โดยเฉพาะคนที่ทำงานผลัดกลางคืน พนักงานสายการบิน จึงมีการนำเอาเมลาโทนินมาใช้ปรับการนอนหลับ โดยนำมาทดแทนปริมาณการผลิตเมลาโทนินที่ลดลงของต่อมไพเนียล จึงมีคนนิยมใช้มีลาโทนิน เป็นยาปรับสภาพสมดุลเนื่องจากการทำงาน การผิดเวลานอน หรืออดนอนหลายคืน

มีความพยายามจะค้นหาตำแหน่งของการ กำหนดนาฬิกาชีวิตในแต่ละอวัยวะ เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต โดยการคัดเอาสมองส่วนเปลือก สมองส่วนหลัง รอยหยักของสมอง แล้วไปสำรวจกฎเกณฑ์การทำงานของต่อมต่างๆ ก็ไม่สามารถพบกฎเกณฑ์นาฬิกาชีวิตได้

การวิจัยนาฬิกาชีวิต

ตัวอย่างการวิจัยเกี่ยวกับนาฬิกาชีวิตระบบต่างๆ ของร่างกาย

1. การแบ่งเซลล์ของร่างกายมนุษย์ มีการแบ่งตัวประมาณ 50 ครั้ง ในชั่วอายุขัย


2. ปริมาณเม็ดเลือดขาว ที-ลิมโฟไซต์ และเม็ดเลือดขาวติดสีกรด จะสูงสุดช่วง 00.00-04.00 น. และต่ำสุด 12.00-16.00 น.


3. ความดันเลือด ระยะคลายตัวของหัวใจ

เวลา 09.00 น. ประมาณ 72-80 มม.ปรอท

เวลา 14.00 น. ประมาณ 84-90 มม.ปรอท

การเต้นของหัวใจแรงสุดประมาณ 08.00 น.

การเต้นของหัวใจต่ำสุดประมาณ 20.00 น.


4. ระบบการหายใจ การเปลี่ยนแปลงขนาดของปอด หรือการพยายตัวของปอดจะสูงช่วง 06.00-07.00 น. และ 18.00-21.00 น. ผู้ป่วยที่มีอาการอาเจียนเป็นเลือดมักเกิดอาการสูงสุดในช่วงเวลานี้


5. ระบบการย่อยอาหารและดูดซึม

การขับน้ำย่อยของตับอ่อนจะต่ำสุดในฤดูร้อน ทำให้ฤดูร้อนเบื่ออาหาร กินอาหารไม่ได้มาก

ปริมาณ ของน้ำย่อยของตับอ่อนช่วงเวลากลางคืนลดลง เมื่อเทียบกับกลางวัน การทดลองของ F.Halbens ในอาสาสมัคร 7 คน โดยให้อาหารประเภทเดียวกันปริมาณ 2,000 แคลอรี กลุ่มแรกให้กินตอนเช้า อีกกลุ่มให้กินตอนกลางคืน ผลปรากฏว่ากลุ่มที่กินตอนกลางคืนมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน


6. อุณหภูมิของร่างกาย

อุณหภูมิของร่างกายต่ำสุดอยู่ในช่วง 00.00-06.00 น.

อุณหภูมิของร่างกายสูงสุดในช่วง 17.00-18.00 น.

และทุก 2-3 ชั่วโมง จะมีการปรับของอุณหภูมิครั้งหนึ่ง


7. ระดับกลูโคสในเลือด

ระดับ กลูโคสในเลือดของหนูทดลองสูงสุดเวลาประมาณ 08.30 น. ต่ำสุดช่วงเวลา 20.30 น. แม้ในภาวะที่หิวจัด ระดับกลูโคสก็จะดำรงอยู่เช่นนี้ไม่เปลี่ยนแปลง


ใน ร่างกายมนุษย์ ระดับน้ำตาลเริ่มลดลงตั้งแต่พลบค่ำ (18.00 น.) และค่อยๆ ลดลงต่ำสุดระหว่างเวลา 03.00 – 06.00 น. กฎเกณฑ์นี้นำมาประยุกต์กับการรักษาเบาหวาน ซึ่งมักจะต้องใช้ยาช่วงเวลากลางวัน ที่มีแนวโน้มน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูง ถ้าผู้ป่วยกินยาลดน้ำตาลในเลือดเกินขนาด หรือมากเกินช่วงกลางคืน อาจเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและมีอาการช็อกได้


8. ระบบการขับถ่าย ไตมีหน้าที่ขับถ่ายของเสียจากกระบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกายได้สูงสุดระหว่างช่วงเช้าถึงเที่ยงวัน

การ ขับ K+(potassium) ของทารกในครรภ์เริ่มตั้งแต่ สัปดาห์ที่ 4-20 และขึ้นกับปัจจัยหลายประการ เช่น การนอนหลับ การเคลื่อนไหว รวมถึงการทำงานของต่อมหมวกไต


คนปกติที่นอน 23.00 น. ตื่นนอน 07.00 น. การขับของเสียสูงสุดในช่วงกลางวัน 10.30-16.30 น. และต่ำสุดช่วงกลางคืน (เวลานอนหลับ)

9. ระบบฮอร์โมน ระดับฮอร์โมนเทสโตสเตอรอน ในเลือดสูงสุดเวลา 08.00-09.00 น. และต่ำสุดในช่วงกลางคืน

ระดับฮอร์โมนที่กระตุ้นต่อมหมวกไต ต่ำสุดช่วง 04.00-18.00 น.

ระดับฮอร์โมน ACTH ตรงกันข้ามจะสูงตอนเช้า (08.00-09.00 น.)

ระ ดับฮอร์โมนกลูโคคอร์ติคอยด์ เริ่มต้นสูงตั้งแต่ 04.00 น. และสูงสุดในช่วง 06.00-08.00 น. ต่ำสุดระหว่าง 22.00-01.00 น. ช่วงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนถึง 09.00 น. มีปริมาณการหลั่งถึงร้อยละ 70 ของปริมาณฮอร์โมนทั้งหมดของรอบ 24 ชั่วโมง

ระดับฮอร์โมนที่มากระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ จะสูงสุดช่วงหัวค่ำถึงเที่ยงคืน

คน ที่ทำงานเวรผลัดดึกหลายๆ วัน ต้องใช้เวลาการปรับสภาพการทำงานของต่อมไพเนียลนานเป็นสัปดาห์ จึงจะเข้ากฎเกณฑ์ปกติ (melatonin จะต้องหลั่งมากกลางคืน-ตอนมืด)

ฮอร์โมนการเจริญเติบโต จะหลั่งสูงสุด ภายหลังการนอนหลับลึกยามค่ำคืน

ฮอร์โมน โพรแล็กทิน เริ่มจะสูงขึ้นในช่วง 60-90 นาที หลังนอนหลับกลางคืน และค่อยๆ สูงสุดเวลาหัวรุ่ง 05.00-07.00 น. และลดลงอย่างรวดเร็ว จนถึง 10.00 น. สู่ระดับต่ำสุด


10. ระบบสืบพันธุ์

รอบ ประจำเดือนกับข้างขึ้น-ข้างแรม มีความสัมพันธ์กับผลการสำรวจสถิติของการมีประจำเดือนพบว่า รอบประจำเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 29.5 วัน ซึ่งใกล้เคียงกับรอบของการเกิดข้างขึ้น-พระจันทร์เต็มดวงจนกระทั่งข้างขึ้น ใหม่

ช่วงเวลาตกไข่ของสตรีมักอยู่ช่วงพระจันทร์เต็มดวง และโอกาสของการตั้งครรภ์มักอยู่ในช่วงก่อนและหลังพระจันทร์เต็มดวง

อัตรา การกำเนิดทารกสูงสุด จะเป็นช่วงพระจันทร์เต็มดวง ต่ำสุดช่วงเดือนมืดและช่วงกำลังจะเกิดข้างขึ้น และช่วงเวลาที่คลอดมักจะเป็นหลังเที่ยงคืน อัตราการเกิดในช่วงกลางวันมีประมาณ ร้อยละ 60 Halbens สำรวจตัวอย่างประชากรที่คลอดประมาณ 20 ล้านคนพบว่าการเจ็บครรภ์ใกล้คลอด ถุงน้ำคร่ำแตก การเกิดทารกมักอยู่ระหว่างเวลา 00.00-06.00 น.

วิถี ชีวิตที่เปลี่ยนไป สภาพธรรมชาติรอบตัวที่เปลี่ยนไป ส่งผลกระทบต่อการปรับสมดุล ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับธรรมชาติ การฝืนกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ ทำให้สิ่งมีชีวิตปรับตัวไม่ทัน เกิดการเสียสมดุลอย่างต่อเนื่องยาวนาน พลังชีวิตของร่างกายแปรปรวน เกิดอาการและโรคต่างๆ ตามมามากมาย

“มนุษย์กับธรรมชาติเป็นหนึ่งเดียว” คงเป็นสัจธรรมที่ต้องเรียนรู้และนำมาปฏิบัติในการดำเนินชีวิต เพื่อให้จังหวะของการทำงานของเราสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ธรรมชาติที่กำหนดโดย นาฬิกาชีวิตนั่นเอง

ข้อมูลจาก นิตยาสารหมอชาวบ้าน ปีที่ 29 ฉบับที่ 338 มิถุนายน 2550 หน้า 38-41

“พลังสุขภาพจิต สู้วิกฤต” อึด ฮึด สู้



สถานการณ์วิกฤตทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตทางการเมือง เศรษฐกิจที่มีคนตกงานและว่างงานจำนวนมาก สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ โรคที่อุบัติใหม่ เช่น ไข้หวัดใหญ่ เอช 1 เอ็น 1 2009 โรคกาฬโรควัณโรค เป็นต้น ส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ การดำเนินชีวิต และสุขภาพจิตของประชาชน

ทำอย่างไรที่จะทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตสามารถฟื้นตัวกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามศักยภาพ กรมสุขภาพจิตได้พัฒนาความรู้เกี่ยวกับพลังสุขภาพจิต (Resilience) ซึ่งเป็นความสามารถทางอารมณ์และจิตใจในการปรับตัวและฟื้นตัว กลับสู่ภาวะปกติ ภายหลังจากการผจญกับเหตุการณ์ในชีวิต เช่น ตกงาน ถูกทำร้าย เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงหรือเรื้อรัง ไฟใหม่บ้าน สูญเสียคนรัก เป็นต้น เหตุการณ์เหล่านี้ เป็นเรื่องที่คนเราไม่คาดคิดมาก่อน ทำให้ตระหนกตกใจ เศร้าเสียใจ นอนไม่หลับ หมดกำลังใจ อับจนหนทาง


ในสถานการณ์เช่นนี้ คนที่มีพลังสุขภาพจิตดี จะควบคุมตัวเองพยายามอดทน อดกลั้น สร้างกำลังใจให้เข้มแข็งสู้ชีวิตต่อไป ปรับใจแก้ปัญหาเองชนะต่ออุปสรรค ฟื้นฟูจิตใจและปรับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กลับคืนมาเป็นปกติหรือดีกว่า เดิม


ทำอย่างไรบุคคลจึงจะมีพลังสุขภาพจิตได้ต้องมีพลัง 3 พลัง ดังนี้


พลังอึด

หมายถึงการที่ทนทานกับความทุกข์ใจได้ ทนต่อความยากลำบาก ควบคุมอารมณ์ไม่ให้อ่อนไหวง่าย จึงควรฝึกรู้เท่าทันอารมณ์ตนยอมรับอารมณ์เป็น เช่น กลัว โกรธ เศร้าเสียใจ ควบคุมอารมณ์ด้วยวิธีต่างๆ เช่น ทำสมาธิ ฝึกการหายใจ ฝึกผ่อนคลายอารมณ์ ปรับความคิดในเชิงบวก นึกถึงความภูมิใจที่ผ่านมาซึ่งทำให้ร่าเริง


พลังฮึด

หมายถึง มีกำลังใจ มีแรงใจ ที่จะดำเนินชีวิตต่อไปภายใต้สถานการณ์กดดันซึ่งต้องฝึกสร้างกำลังใจให้ตนเอง เช่น พูดให้กำลังใจให้ตนเอง


เช่นฉันทำได้มันจะต้องผ่านพื้นไปได้, ชีวิตของเรามืดไม่นานประเดี๋ยวก็สว่าง, ทุกคนก็มีปัญหา เวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น, ไม่ได้ตกงานเฉพาะฉันคนเดียว, ธุรกิจล้มเหลว แต่ชีวิตฉันต้องไม่ล้มเหลวหรือไปหากำลังใจจากคนอื่น ดูแบบอย่างจากคนอื่นที่พบปัญหาในชีวิตแล้วลุกขึ้นสู้วิกฤตได้ หรือรวบรวมเพลง ข้อความ หรือคำที่กำลังใจ ฝึกแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ คิดหาทางแก้ไขปัญหาหลายๆ ทาง


พลังสู้

หมายถึงต่อสู้เอาชนะอุปสรรค มั่นใจและพร้อมที่จะเอาชนะปัญหาอุปสรรค ตระหนักในทักษะของตนต้องคิดว่า “ฉันทำได้” ฉันได้เรียนรู้ บทเรียนจากวิกฤตในชีวิตครั้งนี้ (สิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นดีเสมอ) คิดหาทางแก้ปัญหาหลายๆ ทาง


หากยังไม่มีพลัง อึด ฮึด สู้ อยู่ในตัว สามารถสร้างได้ด้วยการเรียนรู้จากตัวอย่างของคนที่มีพลังนี้ จากการฟัง การอ่าน ได้เห็นวิธีการแสดงออกของผู้ที่เคยประสบวิกฤตในชีวิตแล้วผ่านมาได้ หรือการได้รับการประคับประคองให้กำลังใจจากคนรอบข้างเป็นที่ปรึกษา ทำให้อบอุ่นใจ คลายความทุกข์ลง และมีความอดทนต่อปัญหาวิกฤตมากขึ้น


ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านมีพลัง อึด ฮึด สู้ ค่ะ

บทความดี ๆ จาก

ศุภวรรณ นิลรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตตรัง

ref: rploei.go.th

3G เร็วสะใจ พร้อมใช้แค่ไหนแล้ว?

เชื่อว่ากระแส 3G ที่กรอกหูคุณกันอยู่คงทำให้คุณสนใจไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่ทุกคนหรอกนะครับที่ทราบว่า 3G นั้นคืออะไร และจะใช้งานได้มากน้อยขนาดไหน

จริงแล้วความหมายของ 3G คือโครงข่ายมือถือที่รับส่งข้อมูลได้ในรุ่นที่ 3 ครับ โดยแต่ละรุ่นก็จะแบ่งตามความเร็ว ทำให้ 3G ย่อมมีความเร็วสูงกว่าเทคโนโลยี 2G แน่นอน ส่วนเทคโนโลยีที่อยู่ในระดับของ 3G นั้นก็มีอยู่หลายรูปแบบครับ ตั้งแต่ 3G แท้ หรือเรียกว่า WCDMA ที่ในบ้านเรายังไม่อนุญาตให้ใช้งานได้ ไปจนถึง 3G เทียมที่เรียกว่า HSDPA ซึ่งทำให้งานบนคลื่นความถี่โทรศัทพ์เดิม เพียงแต่ให้ความเร็วที่สูงเทียบเท่า 3G และยังรวมไปถึง EV-DO ที่อยู่บนเครือข่าย CDMA ของ CAT ด้วย แต่ที่นิยมใช้งานกันจริงๆ ในประเทศไทยก็คงจะเป็น HSDPA ที่คุณสามารถใช้งานได้ทันกับซิมเดิมๆ ที่คุณโทรศัพท์อยู่ เพียงแค่ต้องเปิดบริการ 3G และต้องมีอุปกรณ์ที่จะเป็นแอร์การ์ดหรือมือถือก็ตามแต่ที่รองรับการใช้ HSDPA อีกทั้งจะต้องอยู่ในพื้นที่ให้บริการ 3G ของผู้ให้บริการแต่ละรายด้วย ซึ่งในปัจจุบัน ยังมีพื้นที่ครอบคลุมไม่มากนักครับ ตรงนี้อาจจะต้องสอบถามผู้ให้บริการว่ามีพื้นที่ไหนให้บริการบ้าง

3g

นี่ ก็เป็นรูปแบบของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งกำลังจะกลายมาเป็นรูปแบบใหม่ในการดำเนินชีวิตของคนในยุคดิจิตอลอย่างแท้ จริงกันแล้ว แต่อย่างหนึ่งที่ผมอยากฝากไว้ให้กับผู้อ่านทุกคนก็คือ แม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นโลกที่น่าดึงดูดขนาดไหน แม้ว่าเราจำเป็นจะต้องใช้ในการติดต่อสื่อสารเพียงใด ก็อย่าลืมว่าเรายืนอยู่ในโลกของความจำเป็นจริงนะครับ ยังไงก็อย่าเล่นเน็ตจนถึงขั้นติดงอมแงม หันไปคุยกับเพื่อนข้างๆ บ้างก็ดีนะครับ

http://www.arip.co.th/articles.php?id=407322&page=6

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน iPhone

ความสามารถของ iPhone ไม่ใช่แค่เพียงโทรศัพท์ เล่นเกมหรือดูหนังฟังเพลงเท่านั้น แต่ยังสามารถนำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้ไอโฟนเป็นโมเด็มได้ ด้วย โดยเงื่อนไขที่สำคัญก็คือคุณต้องอัพเดตเฟิร์มแวร์ของ iPhone ขึ้นไปเป็นเวอร์ชัน 3.0 เสียก่อนนะครับ ส่วนวิธีการนั้นมีดังนี้ครับ

วิธี การดังต่อไปนี้ จะต้องติดตั้งเฟิร์มแวร์ 3.0 เป็นหลัก เพราะภายในเฟิร์มแวร์เวอร์ชันใหม่นี้จะเพิ่ม Internet Tethering ไว้ในช่องของ Setting ส่วนของ Network เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ การเชื่อมต่อวิธีการนี้ เราสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งส่วนของ USB ที่ใช้งานกันก่อนหน้านี้ หรือจะใช้วิธีการเชื่อมต่อโดยวิธีการของบลูทูธก็ง่ายไปอีกแบบหนึ่ง

ลักษณะ ของการเชื่อมต่อก็เพียงไปที่ Setting ของเครื่องไอโฟน แล้วเลือกที่ General > Network > Internet Tethering แล้วเลื่อนเป็น On ซึ่งจะมีป๊อบอัพขึ้นว่าคุณจะเปิดบูลทูธเพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือไม่ หรือจะเลือกต่อด้วย USB เป็นหลัก ซึ่งถ้าเรามีสาย USB ในตัวก็ควรจะเลือกเชื่อมต่อด้วยวิธีการของ USB ดีกว่า เพราะมีความเสถียรมากกว่าการใช้บลูทูธ ซึ่งถ้าเราเลือกใช้ USB Only

internet iphone
internet iphone

แล้ว หลังจากนั้น ไอโฟนจะจัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านไอโฟนให้เลย โดยคุณไม่จำเป็นต้องเซตค่าติดตั้งอะไรเพิ่มเติม ส่วนคนที่เลือกใช้บลูทูธก็เพียงแค่เซตค่าของบลูทูธให้เจอกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ของคุณเท่านั้น แค่นี้เราก็เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ง่าย วิธีการนี้ถือว่าเป็นวิธีของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ง่ายกว่าวิธีแรกมาก แต่ก็คงเหมือนกับที่บอกไว้ขั้นต้นว่าเราต้องอัพเกรดเป็นเฟิร์มแวร์ 3.0 ก่อน แล้วถึงจะใช้วิธีการนี้ได้

http://www.arip.co.th/articles.php?id=407322&page=5

การเชื่อมต่อด้วยโน้ตบุ๊กหรือเน็ตบุ๊กที่มีแอร์การ์ดอยู่ภายใน

โน้ตบุ๊กหรือเน็ตบุ๊กบางรุ่นเดี๋ยวนี้จะมีการใส่แอร์การ์ดมาให้พร้อมเลย สังเกตได้จากในสเปกจะมีคำว่า WWAN หรือ 3G ประมาณนี้อยู่ด้วย และภายในตัวโน้ตบุ๊กเองก็จะมีช่องสำหรับใส่ซิมโทรศัพท์มือถืออยู่ด้วย ส่วนใหญ่จะซ่อนอยู่หลังช่องใส่แบตเตอรี่ครับ ส่วนวิธีการเชื่อมต่อนั้นง่ายแสนง่ายเลยครับ

1. โน้ตบุ๊กหรือเน็ตบุ๊กเหล่านี้ถ้าหากติดตั้งไดรเวอร์ครบถ้วนแล้วจะสามารถใช้ งานแอร์การ์ดได้ทันที โดยจะมีโปรแกรมที่ใช้สำหรับเชื่อมต่ออยู่บนหน้าจอให้เลย แต่อาจจะแตกต่างกันไปตามโน้ตบุ๊กแต่ละรุ่นนะครับ คล้ายๆ กับการเชื่อมต่อกรณีของแอร์การ์ดผ่าน USB ถ้าหากหาโปรแกรมไม่เจอจริงๆ อาจจะสันนิษฐานได้ว่ายังติดตั้งไดรเวอร์หรือโปรแกรมไม่สมบูรณ์ให้ติดตั้ง ส่วนของแอร์การ์ดเพิ่มเติมครับ

2. รันโปรแกรมที่ใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตขึ้นมา แล้วทำตามขั้นตอนการใช้งาน อันนี้แล้วแต่ยี่ห้อของโน้ตบุ๊ก หรือเน็ตบุ๊กที่คุณใช้ครับ แต่โดยปกติแล้วก็จะคล้ายๆ กันคือคลิกปุ่ม Connect เพื่อเชื่อมต่อได้เลย

http://www.arip.co.th/articles.php?id=407322&page=4

การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth

นี่คงเป็นรูปแบบการเชื่อมต่อ ที่ให้ความสะดวกสบาย และง่ายมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะไม่ต้องมีสายให้เกะกะ ไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เพิ่มเติม และผมก็ชอบการเชื่อมต่อแบบนี้เป็นที่สุด เพียงแค่สิ่งสำคัญก็คือทั้งมือถือของคุณและโน้ตบุ๊กหรือเน็ตบุ๊กที่คุณใช้ งานอยู่ จะต้องสามารถเชื่อมต่อ Bluetooth ด้วยนะครับ

1. ขั้นแรกให้คุณเปิดการใช้งาน Bluetooth ทั้งของโน้ตบุ๊กหรือเน็ตบุ๊กและมือถือของคุณให้เรียบร้อย แล้วทำการจับคู่กัน (Pair) ให้เรียบร้อย วิธีการแบบรวบรัดตัดความก็คือเปิดโหมด Discoverable บนมือถือ แล้วใช้โน้ตบุ๊กค้นหาอุปกรณ์ จากนั้นการเชื่อมต่อกัน ใส่ Passkey ให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จพิธีครับ วิธีการอาจจะแตกต่างไปตามอุปกรณ์ที่คุณใช้นะครับ

internet bluetooth

2. หลังจากเชื่อมต่อแล้วระบบจะติดตั้งไดรเวอร์ Com Port ให้กับมือถือ ซึ่งเป็นไดรเวอร์มาตรฐานที่มีมาให้พร้อมกับ Bluetooth อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเกิดปัญหาขึ้นอาจจะต้องใช้แผ่นไดรเวอร์ Bluetooth ของโน้ตบุ๊กหรือเน็ตบุ๊กมาติดตั้งเพิ่มเติมครับ

internet bluetooth

3. ทำการสร้าง Connection ขึ้น โดยคลิกที่เครื่องหมาย เครือข่าย ที่อยู่มุมขวาล่างของหน้าจอเดสก์ทอป เลือก Connect to แล้วตามด้วย Set up a connection or network > Set up a dial-up connection > Standard Modem over Bluetooth

internet bluetooth

4. จากนั้นกรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อลงไป ซึ่งคุณสามารถสอบถามได้จากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของคุณครับ อย่างเช่น AIS จะใช้หมายเลข *99***1# ส่วน Username และ Password ให้ข้ามไป ไม่ต้องใส่ครับ สุดท้ายก็เพียงแค่ตั้งชื่อการเชื่อมต่อให้เรียบร้อย เช่น Internet on Mobile เป็นอันเสร็จพิธีครับ

internet bluetooth

5. การเชื่อมต่อก็เพียงแค่คลิกที่ Connect to เช่นเดิม แล้วเลือก Internet on Mobile หรือชื่อที่คุณตั้งไว้ ซึ่งจะอยู่บนสุดของลิสต์ แล้วกดปุ่ม Connect ก็จะเป็นการเชื่อมต่อครับ แต่ทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือต่างก็ต้องเปิด Bluetooth เอาไว้ด้วยนะครับ

internet bluetooth

http://www.arip.co.th/articles.php?id=407322&page=3

การเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB

สำหรับการเชื่อมต่อด้วย USB อาจจะเป็นวิธีการที่ดูเบสิกสุดๆ เลยก็ว่าได้ครับ แต่วิธีการอาจจะมีความแตกต่างๆ กันไปพอสมควร เพราะต้องขึ้นอยู่กับไดรเวอร์และซอฟต์แวร์ของมือถือหรือแอร์การ์ดที่คุณใช้ งาน เรามาเริ่มดูกันเลยดี

กว่าครับว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง

1. ทำการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือหรือตัวแอร์การ์ดเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ต USB โดยสาย USB ที่ใช้นั้นจะเรียกว่าสาย Data Link ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม ที่คุณอาจจะต้องซื้อเพิ่มเติม หรือมือถือบางรุ่นก็มีแถมมาให้อยู่แล้ว หรือบางรุ่นก็เป็นสายลิงก์ USB ทั่วไป ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไปอยู่แล้ว

Nokia PC Suite

โปรแกรม Nokia PC Suite สำหรับคนใช้มือถือ Nokia ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ก็มีเช่นเดียวกัน

2. ติดตั้งไดรเวอร์ที่มาพร้อมกับมือถือหรือแอร์การ์ด ซึ่งอาจจะเป็นแผ่นซีดีมาให้ในกล่อง หรืออาจจะต้องไปดาวน์โหลดมาเองจากเว็บผู้ผลิตมือถือก็ได้ อย่างเช่นมือถือจาก Nokia ที่จะมีซอฟต์แวร์ Nokia PC Suite ที่สามารถใช้ร่วมกับมือถือ Nokia ได้เกือบทุกรุ่น แต่ถ้าเป็นแอร์การ์ดจะมีแผ่นไดรเวอร์แนบมาให้แน่นอนอยู่แล้วครับ

3. หลังจากที่ได้เชื่อมต่ออุปกรณ์และติดตั้งไดรเวอร์เรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมที่จะใช้งานโดยรันโปรแกรมที่ใช้เชื่อมต่อซึ่งมาพร้อมกับไดรเวอร์ขึ้น มาแล้วทำตามขั้นตอนบนหน้าจอครับ ซึ่งตรงนี้ผมคงไม่สามารถบอกรายละเอียดได้มากครับเพราะซอฟต์แวร์แต่ละตัวมี ความแตกต่างกันค่อนข้างเยอะ แต่โดยรวมแล้วมันจะต้องมีปุ่ม Connect ให้กดแล้วก็ใช้งานได้เลยครับ

Nokia PC Suite

โปรแกรมเชื่อมต่อของแอร์การ์ดอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ แต่ส่วนใหญ่จะมีปุ่ม Connect ที่ใช้เชื่อมต่อได้ทันที

เน็ตนอกบ้านต่อง่ายๆ ใน 1 คลิก Mobile / Aircard / Bluetooth / iPhone

เป็นกันบ้างไหมครับ? ที่เอาชีวิตไปผูกไว้กับอินเทอร์เน็ต ประมาณว่าตื่นเข้าขึ้นมายังไม่ได้ทันได้ล่างหน้าแปรงฟันเลย ก็ต้องเดินมาเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนเป็นอันดับแรก หรืออย่างเวลาเดินทางไปไหนที่ต้องนั่งรถนานๆ หรือเข้าที่พักที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ คุณแทบจะตะกายข้างฝากันเลยทีเดียว

เพราะวิถีชีวิตของคนสมัยนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก อินเทอร์เน็ต ไม่ใช่แค่สิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องมีต่อไปแล้ว แต่มันยังกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องเชื่อมต่อแทบจะตลอดเวลา ยังดีที่พระเจ้าได้สร้างสรรค์โน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊กที่คุณสามารถพก

ไป ไหนมาไหน พร้อมกับเทคโนโลยี GPRS, EDGE และ 3G ขึ้นมาให้เราได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกันได้ทุกที่ทุกเวลา (ที่สัญญาณเครือข่ายไปถึง) ว่าแต่… จะเชื่อมต่ออย่างไรดีล่ะ

ขาดเน็ต ขาดใจ ต้องตาย ถ้าไม่ได้ออนไลน์

ไม่ รู้ว่าเป็นเพราะว่ามันเป็นช่องทางการสื่อสารที่ถูกกว่า คุ้มค่า สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้หลายรูปแบบ สามารถเอามาทำงานได้สะดวกรวดเร็ว หรือว่าจะเป็นเพราะแอพพลิเคชันที่อยู่ในอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะเกมออนไลน์ ซึ่งถ้าพลาดไม่ได้ออนไลน์ไปแม้แต่วันเดียวก็อาจจะทำให้เก็บเลเวลตามเพื่อน ไม่ทันกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีเกมจาก Social Network ต่างๆ ที่ทำให้เด็กยัน ผู้ใหญ่ ติดกันงอมแงม ไม่เว้นแม้แต่หนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องแอบเล่นกันจนไม่เป็นอันทำงานเลยทีเดียว อย่างน้อยก็ต้องขอล็อกอินเข้าไปดูสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงใน Pet Society, บรรยากาศร้านอาหารใน Restaurant City หรือแอบไปขโมยผักเพื่อนใน Country Story เสียหน่อย

internet

1: Restaurant City เกมฮิตใน Facebook ที่ใครก็ติดกันงอมแงม

2: Windows Live Messenger หรือที่เรียกว่า M นั้นอีกหนึ่งบริการที่ต้องออนไลน์แทบตลอดเวลา

3: Twitter ที่เล่นกันได้ทั้งวัน ทั้งคืน ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ขณะเข้าห้องน้ำ บางคนก็ยังจะเล่น

แต่ ไม่ว่าคุณจะใช้เพื่อทำงานหรือจะเพื่อความบันเทิงก็ตาม ความจำเป็นในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ยังคงมีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเทคโนโลยีที่ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ก็มีอยู่หลายอย่าง ด้วยกัน อย่างถ้าอยู่ในบ้านหรือในออฟฟิศก็มีอินเทอร์เน็ตผ่านแลนหรือไวร์เลสส์ให้ เล่นได้ ถ้าไปตามห้างก็ยังมี Hotspot ของผู้ให้บริการรายต่างๆ ให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด แต่สำหรับใครที่ต้องเดินทางบ่อยๆ หรือไปพักตามต่างจังหวัดที่การหาอินเทอร์เน็ตใช้เป็นเรื่องลำบาก ทางเลือกอีกทางก็คือการต่อเน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือที่เราจะมาพูดถึงวิธีการ เชื่อมต่อกันในวันนี้ครับ

wi-fi

WiFi ดูจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็จำกัดเฉพาะในอาคารหรือเขตชุมชนวงแคบๆ เท่านั้น

เชื่อมต่อง่ายๆ ผ่านมือถือ

โทรศัพท์ มือถือจัดว่าเป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนจะต้องมีติดตัวกันอยู่แล้ว บางคนพก 2-3 เครื่องก็มี อันนี้ก็แล้วแต่การใช้งานของแต่ละคน แต่สิ่งหนึ่งที่มือถือให้ได้ก็คือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย โทรศัพท์มือถือทั้ง GPRS, EDGE หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง 3G ที่นอกจากจะให้ความเร็วในการเชื่อมต่อที่สูงไม่แพ้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ทั้งหลายแล้วยังให้พื้นที่ครอบคลุมการใช้งานที่มากกว่าด้วย เรียกได้ว่าที่ไหนมีคลื่นมือถือก็สามารถใช้งานได้ แต่อาจจะมีระดับความเร็วที่แตกต่างไปตามพื้นที่ให้บริการครับ

เอาล่ะครับ ก่อนที่จะไปดูวิธีการเชื่อมต่อ เรามาดูกันก่อนดีกว่าครับว่าการต่อเน็ตผ่านมือถือนั้นจะต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง

notebook

เครื่องคอมพ์ หรืออุปกรณ์ที่จะใช้เล่นเน็ต

อัน นี้ขาดไม่ได้เลยครับ เพราะถ้าคุณไม่มีคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่จะใช้อินเทอร์เน็ตแล้วจะต่ออิน เทอร์เน็ตไปทำไมจริงๆ ไหมครับ สำหรับส่วนนี้อาจจะเป็นคอมพ์ชนิดไหนก็ได้ทั้งโน้ตบุ๊ก เน็ตบุ๊ก แล้วแต่ความชอบ ความถนัด หรือจะเป็นเครื่อง

เดสก์ทอปตั้งโต๊ะก็ได้ใน กรณีที่บ้านยังไม่มีโทรศัพท์ใช้ก็สามารถต่อด้วยมือถือได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังสามารถเล่นโดยตรงผ่านตัวมือถือเองก็ได้ แต่อาจจะทำอะไรได้ไม่มาก ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่อยู่ในโทรศัพท์ว่ารองรับได้มากน้อยขนาดไหน

mobile netbook aircard

โทรศัพท์มือถือที่นอกจากใช้โทรคุยแล้วยังสามารถใช้ต่อเน็ตได้ด้วย

แอร์การ์ด อุปกรณ์ที่ช่วยให้คอมพ์ของคุณต่อเน็ตผ่านซิมมือถือได้

เน็ตบุ๊กบางรุ่นสามารถใส่ซิมเพื่อต่อเน็ตได้ในตัวเลย

อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อ

ใน ที่นี้จะหมายถึงอุปกรณ์ที่เป็นตัวเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนะครับ ถ้าพื้นฐานสุดๆ เลยก็คงจะเป็นตัวโทรศัพท์มือถือเอง แต่ต้องเป็นรุ่นที่รองรับ GPRS หรือ EDGE หรือ HSDPA (3G) อย่างน้อยอย่างหนึ่งนะครับ โดยเชื่อมต่อกับคอมพ์ผ่านสายลิงก์ที่เป็น USB หรือไม่ก็ Bluetooth ครับ นอกจากนี้ก็ยังมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า “แอร์การ์ด” อีก ซึ่งสามารถใส่ซิมโทรศัพท์มือถือแล้วใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้มือถือเลย เพียงแค่ไม่สามารถใช้โทรคุยได้เท่านั้น แต่มีหลายคนที่บอกว่าใช้แอร์การ์ดนั้นเร็วกว่าใช้มือถือต่ออยู่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีโน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊กบางรุ่นที่ได้ฝังตัวแอร์การ์ดมาพร้อมกับ ตัวเครื่อง สามารถใส่ซิมเข้าไปที่ตัวเครื่องแล้วเล่นเน็ตได้เลย

net sim

ซิมโทรศัพท์มือถือ พร้อมเปิดบริการอินเทอร์เน็ต

อีก หนึ่งสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือซิมโทรศัพท์มือถือธรรมดาที่เราใช้งานกัน อยู่นี่แหละครับ แต่จะต้องเปิดบริการอินเทอร์เน็ตเอาไว้ด้วย หรือถ้าให้ดีก็ควรสมัครแพ็กเกจ GPRS หรือ EDGE เอาไว้ด้วยก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะทีเดียว สำหรับซิมนั้นคุณอาจจะใช้ซิมเดียวกับเบอร์ที่คุณใช้โทรเป็นประจำก็ได้ หรือจะซื้อเป็นซิมสำหรับเล่นเน็ตโดยเฉพาะแยกมาอีกซิมเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่คุณใช้ อย่างถ้าคุณใช้โทรศัพท์เครื่องเดียว และใช้มันสำหรับต่ออินเทอร์เน็ตด้วยก็ควรจะใช้ซิมเดียวกับที่คุณโทรเป็น ประจำเพื่อจะได้ไม่ต้องมาสลับซิมไปมาให้วุ่นวายครับ

เชื่อมต่อง่ายๆ ไม่ยากอย่างที่คิด

เมื่อ อุปกรณ์ต่างๆ ถูกเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนของการเชื่อมต่อกันจริงๆ เสียที ซึ่งผมขอแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ นะครับ คือการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB, การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, การเชื่อมต่อโน้ตบุ๊กหรือเน็ตบุ๊กที่มีแอร์การ์ดอยู่ภายในตัวอยู่แล้ว และสุดท้ายคือการเชื่อมต่อผ่าน iPhone ที่กำลังฮิตใช้งานกันอย่างมากครับ

http://www.arip.co.th/articles.php?id=407322

เที่ยวเมืองไทยสุดคุ้มอันดับ 2 ของโลก!



โลนลี่ แพลเน็ต ซึ่งเป็นคู่มือสำหรับนักท่องโลก มีการจัดอันดับ "เทรนด์การท่องเที่ยว เป้าหมายสำหรับการท่องเที่ยว การเดินทาง และประสบการณ์ที่มาแรงที่สุดสำหรับปี "2553" ซึ่งมีการจัดให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 2 ของกลุ่มประเทศที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว และเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางไกลที่ถูกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวจาก ยุโรป อีกทั้งยังมีทางเลือกมากมายสำหรับเรื่องที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว

ส่วนประเทศที่ครองอันดับ 1 คือ ไอซ์แลนด์ เนื่องจากไอซ์แลนด์ได้เกิดการล่มสลายของ เศรษฐกิจ ทำให้การท่องเที่ยวที่นี่ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะคนมีเงินเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

ด้านลอนดอนถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 3 เพราะค่าเงินปอนด์ที่ลดลงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนลอนดอนได้ในราคาถูกลงจากเดิมกว่าครึ่ง

ส่วนอีก 7 ประเทศในกลุ่มนี้คือ แอฟริกาใต้ อินเดีย มาเลเซีย เม็กซิโก บัลแกเรีย เคนยา และลาสเวกัส

ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวในไทยและเวียดนามยังคงซบเซา โดยปัญหาใหญ่ของไทยคือการเมืองที่ยังไม่มั่นคง ทำให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว และในการที่ ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค จากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในไทยก็ยังได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียทั้งหมดด้วย
ส่วนเวียดนามที่แม้ดูเหมือนที่ผ่านมาจะมีทีท่าคึกคัก ขณะนี้ก็ประสบปัญหาเช่นกันเนื่องจากคนมองว่าค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวเวียดนามนั้นแพงเกินจริงในปัจจุบัน

"เกลือไอโอดีน" พัฒนาชาติสู่ความยั่งยืน


ไอโอดีนจัดเป็นเกลือแร่ที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่าง กายเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความสำคัญต่อพัฒนาการทางสมองรวมถึงช่วยเสริมสร้างสติปัญญาให้กับเด็กทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจริญเติบโตของเด็กตั้งแต่ในครรภ์มารดา คือเริ่มตั้งแต่อายุ 3 สัปดาห์ จนกระทั่งเติบโตจนอายุ 3 ปี ซึ่งในช่วงนี้พัฒนาการทางสมองของเด็กมีมากถึง 80 เปอร์เซนต์

โดยร่างกายจะใช้ไอโอดีนในการเพิ่มจำนวนและขนาดของเซลล์สมอง และสร้างใยประสาทเชื่อมต่อกัน เนื่องจากไอโอดีนเป็นองค์ประกอบที่ สำคัญของฮอร์โมนไทรอกซิน (thyroxin) ที่ผลิตจากต่อมไทรอยด์ การทำงานของฮอร์โมนนี้คือควบคุมอัตราเมแทบอลิซึมของร่างกาย


ซึ่งหากเด็กขาดฮอร์โมนไทรอกซินจะทำให้การพัฒนาทางร่างกายและสติปัญญาลดลง ร่างกายเจริญเติบโตช้ากว่าปกติและปัญญาอ่อน ผิวหนังหยาบแห้ง ผมบาง แขนและขาสั้น ส่วนในผู้ใหญ่ที่ขาดฮอร์โมนไทรอกซินจะมีอาการเหนื่อยง่าย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผมและผิวหนังแห้ง หัวใจโต ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ เฉื่อยชาและความจำเสื่อม อีกทั้งยังพบว่าผู้ที่ขาดสารไอโอดีนจะเกิดอาการโรคคอพอก (simple goiter) อีกด้วย


โดยได้มีรายงานการศึกษาถึงความผิดปกติของการขาดสารไอโอดีน พบว่า


  • ถ้าขาดไอโอดีน ร้อยละ 1 – 10 จะแสดงอาการในลักษณะของปัญญาอ่อนหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโรคเอ๋อ
  • ถ้าขาดไอโอดีนร้อยละ 10 – 30 จะทำให้ระดับสติปัญญาต่ำอย่างมากหรือที่เรียกว่า ปัญญาทึบ


ขณะที่จากรายงานการตรวจสอบคุณภาพของเกลือเสริมไอโอดีนจากผู้ผลิตกว่า 120 รายทั่วประเทศ พบว่า เกลือเสริมไอโอดีนที่มีคุณภาพ คือ มีสารไอโอดีนอย่างน้อย 30 พีพีเอ็ม มีเพียง 40% เท่านั้น ทั้งนี้ พบการครอบคลุมการกระจายเกลือเสริมไอโอดีนในระดับครัวเรือนอยู่ระหว่าง 50.6-66.8% ซึ่งอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด คือ การครอบคลุมระดับครัวเรือนอย่างน้อย 90% ซึ่งของไทยต่ำกว่าลาว และกัมพูชา โดยจากการตรวจวัดไอโอดีนในปัสสาวะของหญิงมีครรภ์พบว่าเป็นปัญหาถึง 49.4%


จากการเปิดเผยโภชนาการ ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ผลการสำรวจระดับเชาว์ปัญญาของเด็กไทยพบว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่าเด็กไทยมีปัญหาในเรื่องของระดับสติปัญญาลดต่ำลง โดยค่าเฉลี่ยของระดับเชาว์ปัญญาหรือไอคิว ไม่ถึง 90 คือ อยู่ที่ประมาณ 88 ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยที่ควรจะเป็นสำหรับคนที่จะเรียนในระดับปริญญาได้ควรจะอยู่ ที่ประมาณ 100 ซึ่งการสำรวจครั้งนี้พบว่า ระดับเชาว์ปัญญาลดลงจากการสำรวจเมื่อปี 2540 ที่เด็กไทยมีระดับเชาว์ปัญญาอยู่ที่ 91.9 สำหรับเด็กในภาคเหนือมีปัญหาเรื่อง เชาว์ปัญญาต่ำมากกว่าภาคอื่นๆ ค่าเฉลี่ยของไอคิวอยูที่ 82 เท่านั้น*


ขณะที่ผลการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข พบหญิงตั้งครรภ์ 350,000 ราย เสี่ยงลูกเป็นโรคเอ๋อ ปัญญาอ่อนเพราะขาดไอโอดีน ทำแผนแผน 5 ปี ควบคุมป้องกัน จับมือภาคีร่วมรณรงค์ให้เข้าใจถึงผลร้ายของการขาดสารไอโอดีน แนะคนไทยทุกครัวเรือน ใช้เกลือและน้ำปลาที่เสริมไอโอดีนปรุงอาหาร เพื่อความฉลาดของเด็กไทยอย่างยั่งยืน


โดยสาเหตุแห่งปัญหาการผลิตเกลือเสริมไอโอดีน ส่วนหนึ่งคือการเข้าถึงสารโปตัสเซียมไอโอเดทที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นกรมอนามัยกำลังประสานกับกรมบัญชีกลางเพื่อจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนใน การช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ผลิตเกลือเสริมไอโอดีน


จากพฤติกรรมของคนไทยที่มี การบริโภคเกลือปรุงรสน้อยมาก เนื่องจากคนไทยนิยมบริโภคน้ำปลาเพื่อเพิ่มความเค็มในการปรุงรสแทนเกลือ เหตุนี้กรมอนามัยจึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชนจัดทำโครงการน้ำปลาเสริมไอโอดีน และธาตุเหล็ก เพื่อรณรงค์ให้คนไทยเพิ่มการบริโภคไอโอดีนเพิ่มขึ้นอย่างทั่วถึง


เมื่อทราบถึงความสำคัญของไอโอดีนดังนี้แล้ว จึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีสารไอโอดีนให้เพียงพอกับความต้องการของ ร่างกาย เพราะนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดสารไอโอดีนแล้ว ยังเป็นการช่วยประเทศชาติพัฒนาด้านสติปัญญาของทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นกำลังหลักของการพัฒนาประเทศได้อย่างดีอีกด้วย