เมื่อยังมีความสุขดีในชีวิต เรามักมองไม่เห็นค่าของอะไรหลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่ข้างตัวเรา บางสิ่งนั้นอาจจะใกล้ตัวเกินไปจนมองไม่เห็น หรืออาจธรรมดาสามัญเกินกว่าจะนึกใส่ใจในคุณค่า เราจึงมักมองข้ามไป
จน เมื่อได้สูญเสียมันไปแล้วนั่นแหละ ถึงได้ตระหนักว่าทำผิดใหญ่หลวง แต่ก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้อีกแล้ว
เช่นเดียวกัน คนที่อยู่ใกล้หัวใจเราอย่างแท้จริง บ่อยครั้งเรากลับมองไม่เห็นเขา หรือเพียงมองผ่าน...แล้วไปใส่ใจกับสิ่งอื่นที่อยู่ไกลกว่า
เราถูก พร่ำสอนให้มีมารยาทกับคนแปลกหน้าตามท้องถนน คน...ที่อาจพบผ่านกันเพียงครั้งเดียวในชีวิตโดยไม่มีความทรงจำใด ๆ ให้สานต่อ แต่เราก็พร้อมที่จะกล่าวขอบคุณและขอโทษได้เต็มความรู้สึก
มารยาท เหล่านี้เป็นหน้ากากของคนดีตามบรรทัดฐานสังคม
เรามองเห็นโลกสวยงาม ตามแบบที่ถูกปรุงแต่งไว้แล้ว มองเห็นต้นไม่ร่มครึ้มนอกบ้านน่าชื่นชมยินดีเพราะไม่มีภาระที่ต้องดูแลมัน อิ่มเอมเปรมใจเสมอกับความเขียวขจีของภูมิทัศน์ที่คนอื่นสร้างขึ้น มีความสุขล้นเหลือกับถนนสายดอกไม้บาน ซึ่งเมื่อถึงฤดูกาลของมัน กลีบบอบบางก็จะผลิแย้มอ่อนโยน อวดสีสันสะพรั่งต้น แม้ยามทิ้งดอกหลุดร่วงปลิดปลิวไปกับสายลม พรมดอกไม้ใต้ต้น สีเหลือง แดง ชมพู ม่วงก็ยังงามตระการ
โลกในมุมนี้สวยงามเสมอในระยะห่างที่เราปลอด ภาระ
แต่ถ้าไม้ใหญ่ต้นนั้นอยู่ในบริเวณบ้านของเรา ดอกสวยที่ร่วงหล่นของมันคือภาระในการเก็บกวาด กิ่งใบที่เติบใหญ่ไม่หยุดยั้งก็เป็นปัญหาในการดูแลตัดแต่ง ปุ๋ยก็ต้องใส่ น้ำก็ต้องรด กลีบดอกตระการตาที่มันร่วงหล่นที่อื่นแล้วเรามองเห็นเป็นพรมดอกไม้งามจับใจ นั้น ก็กลายเป็นขยะจากต้นไม้ที่ต้องปัดกวาดดูแลในบ้านเรา
สวนของคน อื่นจึงสวยเสมอ ทำให้เราหลงรักได้ไม่ยาก แต่สวนของเราเอง กว่าจะไปเสาะหาต้นไม้ที่ต้องการ กว่าจะลงมือปลูก จัดแต่ง รดน้ำ พรวนดิน จนเติบใหญ่ให้ร่มใบ ให้ดอกละลานตา ให้ผลหอมหวาน ต้องผ่านการใส่ใจและทุ่มเทมากมาย
สวนในบ้านเราต้องดูแลฉันใด คนที่อยู่ใกล้ตัวเราก็คือภาระที่ต้องดูแลไม่ต่างกัน
และอะไรที่เป็น ภาระ เรามักจะมองไม่เห็นค่า
คนที่อยู่ใกล้หัวใจ คนที่จะต้องร่วมงาน ร่วมบ้าน ร่วมชีวิต ร่วมครอบครัวกันไปจนวันสุดท้าย เมื่อเป็นสิ่งใกล้ตัว แต่ไกลตา บางเวลาเราจึงมองผ่านเลย ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องใส่ใจ เห็นค่า หรือชื่นชมยินดีเหมือนกับที่เรารู้สึกต่อคนไกลที่ไม่เห็นหน้า
คนไกล ที่ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเรา ทำให้ไม่รู้สึกเป็นภาระ
คนไกลที่เรา ไม่มีโอกาสเห็นข้อตำหนิของเขา จึงไร้สิ่งบกพร่อง
คนไกลที่เราต้อง สุภาพอ่อนโยนด้วย ใส่ใจกับมารยาทสังคม ห่วงใยกับสุขทุกข์ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ไปฉลองวันเกิดกับเขา ไปงานแต่งงาน งานศพ ฯลฯ ด้วยความยินดีและเต็มใจ
คนไกลที่มักได้รอยยิ้มกับเราเสมอ เพราะไม่มีเหตุให้เราต้องโกรธขึ้งหรือบึ้งตึงใส่ แต่กับคนใกล้เรามักฉุนเฉียวหงุดหงิดได้ง่ายโดยไม่ต้องหาเหตุผล
คนไกล เหล่านั้นน่ารักน่าชื่นชมเสมอ และเราพร้อมที่จะให้โดยที่เขาไม่ได้เรียกร้อง แต่กับคนใกล้การให้คือภาระ
เราจึงแทบไม่รู้ตัวว่าบ่อยครั้งเราทิ้ง มารยาทอันดีไว้นอกประตูบ้าน นอกสำนักงาน...ปล่อยให้ความใกล้ชิดชินชาเข้าครอบงำเข่นฆ่าอีกฝ่ายด้วยความ ไม่ตระหนักรู้ในคุณค่าของคนใกล้
หัวใจที่อยู่ใกล้กันหลายดวงจึงเป็น ทุกข์ด้วยความประพฤติที่ไม่ใส่ใจตรวจสอบและหยั่งรู้ในคุณค่า ความดี ความงาม ความน่ารักของอีกฝ่าย
กว่าจะรู้ก็ถึงวันที่สูญเสียไปแล้ว
กว่า จะมองเห็นสวนในบ้านตัวเองสวย ต้นไม้นั้นก็ถูกโค่นทิ้งไปแล้ว ตอไม้ตายซากที่เหลือเป็นเพียงสิ่งเตือนใจ เมื่อนึกขึ้นได้หันกลับมารดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยอีกครั้งหวังจะให้ไม้ใหญ่ฟื้น คืนชีวิตก็สูญเปล่า ด้วยสายเสียแล้ว
น่าเสียดายที่หลายคนปล่อยให้ทุกอย่างสายเกินไป ปล่อยให้สิ่งใกล้ใจเป็นของไกลตา ไม่เคยนึกถึง ไม่เคยชื่นชมในขณะที่ของสิ่งนั้นยังอยู่กับเรา แต่เมื่อหลุดลอยจากมือไปแล้ว กลับต้องมาทุกข์ทรมานกับความพยายามที่จะไขว่คว้าไว้แล้วก็ได้เพียงความว่าง เปล่า
ชีวิตก็ไม่ต่างไปจากฤดูกาล ผ่านร้อน ฝน หนาว แปรเปลี่ยนเป็นธรรมดา แต่เราคงไม่สามารถเบิกบานใจกับการมีชีวิตได้ หากมัวแต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันวานหรือวันพรุ่ง มากกว่าการรู้จักชื่นชมยินดีกับการมีชีวิตในวันนี้ให้ดีที่สุด ด้วยความเข้าใจในสภาพที่มันเป็นอยู่
ในฤดูกาลแห่งชีวิต ธรรมชาติสอนให้เรารู้จักความผันแปรของสรรพสิ่ง ต้นไม้ใบหญ้าที่เติบโตแตกดับไปตามฤดูกาลเหล่านั้น คือรูปธรรมอันชัดเจนที่สุดของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
สำหรับบาง คนอาจให้ความสำคัญกับการมีอายุยืนยาว แต่บางคนกลับมองว่าคุณค่าของชีวิตมิได้อยู่ที่วันเวลาอันยาวนานเหล่านั้น หากอยู่ในสิ่งที่เราเก็บเกี่ยวได้จากกาลเวลาต่างหาก ดังนั้นคนที่มีอายุยืนยาวจำนวนมากอาจจะมี "ชีวิต" อยู่เพียงน้อยนิดเพราะไม่สามารถเก็บเกี่ยวคุณค่าแห่งชีวิตเอาไว้ได้
ถ้า หากถึงวันที่จะต้องเหลือแต่เพียงความทรงจำ ความทรงจำนั้นจะไม่ทำร้ายใครเลย หากเราไม่ยอมเพิกเฉยกับคนที่อยู่ใกล้หัวใจเราที่สุด :D (หน้าพิเศษ D-Life)
*ประชาชาติธุรกิจ