
ทุกสิ่งอุบัติขึ้นด้วยการเปรียบเทียบ ![]()
เมื่อคนในโลกรู้จักความสวยว่าสวย ความน่าเกลียดก็อุบัติขึ้น
เมื่อคนในโลกรู้จักความดีว่าดี ความชั่วก็อุบัติขึ้น
มีกับไม่มีเกิดขึ้นด้วยการรับรู้ ยากกับง่ายเกิดขึ้นด้วยความรู้สึก
ยาวกับสั้นเกิดขึ้นด้วยการเปรียบเทียบ สูงกับต่ำเกิดขึ้นด้วยการเทียบเคียง
เสียงดนตรีกับเสียงสามัญเกิดขึ้นด้วยการรับฟัง หน้ากับหลังเกิดขึ้นด้วยการนึกคิด
ดังนั้นปราชญ์ ย่อมกระทำด้วยการไม่กระทำ
เทศนาด้วยการไม่เอ่ยวาจา การงานทั้งหลายก็สำเร็จลุล่วงลง
ท่านให้ชีวิตแก่สรรพสิ่ง แต่มิได้ถือตนเองเป็นเจ้าของ
ประกอบกิจการยิ่งใหญ่ แต่มิได้ประกาศให้โลกรู้
เหตูที่ท่านไม่ปรารถนาในเกียรติคุณ เกียรติคุณของท่านจึงดำลงอยู่ไม่สูญสลาย.
..........................................................................
มิได้อยู่เพื่อตนเอง ![]()
ฟ้ามีอายุยาวนาน ดินมีอายุยาวนาน
เหตุเพราะฟ้าและดินมิได้ดำรงอยู่เพื่อตนเองจึงอยู่ได้คงทน
ดังนั้นปราชญ์ย่อมตั้งตนอยู่รั้งท้ายและก็จะกลับกลายเป็นหน้าสุด
ละเลยตนเองแต่กลับมีชีวิตอยู่ได้ด้วยดี
เพราะปราชญ์มิได้อยู่เพื่อตนเองหรือมิใช่ ตัวตนของท่านจึงถึงซึ่งความสมบูรณ์.
..............................................................
กากเดนแห่งคุณความดี ![]()
ผู้ที่ยืนเขย่งบนปลายเท้าจะยืนได้ไม่มั่นคง ผู้ที่เดินเร็วเกินไปจะเดินได้ไม่ดี
ผู้ที่แสดงตนให้ปรากฎจะไม่เป็นที่รู้จัก ผู้ที่ยกย่องตนเองจะไม่มีใครเชื่อถือ
ผู้ที่ลำพองจะไม่ได้เป็นหัวหน้าในหมู่คน
สิ่งเหล่านี้ในทัศนะของเต๋าแล้วย่อมเรียกได้ว่า
กากเดนและเนื้อร้ายของคุณความดีอันเป็นสิ่งที่พึงเหยียดหยาม
ดังนั้นบุคคลผู้ยึดมั่นในหนทางแห่งเต๋าพึงหลีกเลี่ยงจากสิ่งเหล่านี้.
รู้จักตนเอง ![]()
ผู้ที่เข้าใจคนอื่นคือผู้รอบรู้ ผู้ที่เข้าใจตนเองคือผู้รู้แจ้ง
ผู้ที่มีชัยต่อคนอื่นคือผู้มีกำลัง ผู้ที่มีชัยต่อตนเองคือผู้เข้มแข็ง
ผู้ที่มักน้อยคือผู้ร่ำรวย ผู้ที่มีมานะพยายามคือผู้มีความหวัง
ผู้ที่อยู่ในสถานะอันเหมาะสมของตนเองย่อมอยู่ได้นาน
ถึงแม้ผู้นั้นจะสิ้นชีวิตไปแล้วแต่คุณความดียังอยู่สืบไป.
................................................
ชนะแข็งด้วยอ่อน ![]()
ผู้ที่ถูกลดทอน จะต้องมีมาก่อน
ผู้ที่อ่อนแอ จะต้องเข้มแข็งมาก่อน
ผู้ที่ตกต่ำ จะต้องยิ่งใหญ่มาก่อน
ผู้ที่ได้รับ จะต้องให้มาก่อน
เหล่านี้คือนัยที่แสดงออกให้ปรากฎ
ความอ่อนละมุนมีชัยเหนือความแข็งกร้าว
ควรปล่อยให้มัจฉาอยู่ในสระลึกจะดีกว่า
เหมือนดั่งเก็บงำศัตราวุธทั้งมวลของบ้านเมืองไว้มิให้ใครแลเห็น.
......................................................
ระดับสูง ![]()
เมื่อคนในระดับสูงได้รับฟังเต๋า ก็ปฎิบัติตามอย่างมีมานะ
เมื่อคนในระดับปานกลางได้รับฟังเต๋า บางครั้งก็เข้าใจบ้างครั้งก็ไม่เข้าใจ
เมื่อคนในระดับต่ำสุดได้รับฟังเต๋า ก็หัวเราะเยาะด้วยเสียงอันดัง
หากมิถูกหัวเราะเยาะก็คงจะมิใช่เต๋าแล้ว
ดังนั้นจึงมีคำกล่าวไว้ว่า เต๋าอันกระจ่างแจ้งคล้ายดังมืดมน
เต๋าอันรุดหน้าคล้ายดังถดถอย เต๋าอันราบรื่นคล้ายดั่งขรุขระ
สีขาวบริสุทธิ์คล้ายดั่งมืดดำ คุณความดีอันสูงสุดคล้ายดั่งต้อยต่ำ
คุณความดีอันเลอเลิศคล้ายดั่งบกพร่อง คุณความดีอันหนักแน่นคล้ายเลื่อนลอย
ธรรมชาติอันง่าย ๆ คล้ายดั่งแปรเปลี่ยน
รูปจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดนั้นไม่มีมุม ภาชนะที่ใหญ่สุดนั้นไม่เคยสร้างสำเร็จ
เสียงดนตรีอันยิ่งใหญ่นั้นยากที่จะได้ยิน ภาพอันยิ่งใหญ่นั้นไม่อาจมองเห็น
เต๋าอันเคลือบคลุมซ่อนเร้นนั้นไร้ชื่อ
มีเพียงเต๋าเท่านั้นที่เสริมสร้างบำรุงเลี้ยงและให้ความสมบูรณ์แก่สรรพสิ่ง.
............................................................
คล้าย ![]()
สิ่งที่สมบูรณ์ที่สุดคล้ายดั่งมีความบกพร่องอยู่
แต่คุณประโยชน์ของมันไม่มีที่สิ้นสุด
สิ่งที่เต็มเปี่ยมที่สุดคล้ายดั่งมีความว่างเปล่าอยู่
แต่คุณประโยชน์ของมันไม่มีที่สิ้นสุด
ที่ตรงที่สุด คล้ายดังคดงอ ที่ชาญฉลาดที่สุดคล้ายดังโง่เขลา
ที่เปี่ยมด้วยโวหารคล้ายดังขัดข้องติดอ่าง
เมื่อเคลื่อนไหวทำให้หายหนาว เมื่อหยุดนิ่งทำให้หายร้อน
ผู้มีความนิ่งมีความสงบ จึงเป็นแบบอย่างอันเลอเลิศของจักรวาล.
.................................................
หยั่งรู้ ![]()
โดยมิได้ย่างเท้าออกนอกประตู ก็อาจรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก
โดยมิได้มองออกนอกหน้าต่าง ก็อาจเห็นเต๋าแห่งสรวงสวรรค์
ยิ่งเดินทางแสวงหาไกลออกไปเท่าใด ยิ่งรู้น้อยลงเท่านั้น
ดังนั้นปราชญ์อาจรู้โดยมิต้องเดินทาง อาจเข้าใจโดยมิต้องมองเห็น
อาจสัมฤทธิ์ผลโดยมิต้องกระทำ.
.............................
คุณความดีอันล้ำลึก ![]()
เต๋าให้กำเนิดแก่สรรพสิ่ง คุณธรรมให้การบำรุงเลี้ยง
วัตถุธาตุให้รูปทรง สิ่งแวดล้อมช่วยทำให้สมบูรณ์
ดังนั้นสรรพสิ่งในสากลจักรวาล จึงเทิดทูนเต๋าและยกย่องคุณธรรม
เต๋าได้รับการเทิดทูนและคุณธรรมได้รับการยกย่อง
มิใช่ด้วยการบังคับขู่เข็ญของผู้ใดแต่เป็นไปด้วยตนเอง
เต๋าให้กำเนิดคุณธรรมให้การบำรุงเลี้ยง
ทำให้สรรพสิ่งเติบโตแผ่ขยายให้สถานที่พักอาศัยเลี้ยงดูและปกปักรักษา
ให้กำเนิดแต่มิได้ครอบครอง บำรุงเลี้ยงแต่มิได้ถือเป็นความดี
มีความยิ่งใหญ่แต่มิได้เข้าบังคับบัญชา นี่คือคุณธรรมอันล้ำลึก.
................................................
เหนือโลก ![]()
ผู้ที่รู้ไม่พูด
ผู้ที่พูดไม่รู้
ถมช่องว่าง
ปิดประตู
ที่คมทำให้ทื่อ
ที่ยุ่งแก้ให้หลุด
ที่กระจ่างเกินไป
ก็ลดลงเสียบ้าง
ที่วุ่นวายหลีกให้พ้น
นี่คือเอกภาพอันล้ำลึก
เมื่อทำได้ดังนี้
ทั้งความรักและความเกลียด
ก็ไม่อาจแผ้วพาน
การได้หรือการสูญเสีย
ก็ไร้ความหมาย
มีเกียรติหรือต่ำต้อย
ก็มีผลเท่ากัน
ผู้ที่ทำได้ดังนั้น
จึงเป็นผู้มีเกียรติสูงสุด
อย่างแท้จริงในโลกนี้.
................
ยากกับง่าย ![]()
ทำด้วยการไม่กระทำ ดูแลด้วยการไม่ดูแล
ลิ้มรสด้วยการไม่ลิ้มรส ถือที่เล็กเสมือนใหญ่
ถือที่น้อยเสมือนมาก ตอบแทนความชั่วด้วยความดี
จัดการกับสิ่งที่ยุ่งยากในขณะที่ยังง่าย จัดการกับสิ่งที่ใหญ่ในขณะที่ยังเล็ก
ปัญหาที่แก้ยากของโลก จะต้องแก้ไขในขณะที่ยังง่ายอยู่
ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของโลก จะต้องแก้ไขขณะที่ยังเล็กอยู่
ดังนั้นการที่ปราชญ์ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานใหญ่ งานอันยิ่งใหญ่ก็สำเร็จลง.
......................................................
เริ่มทำเมื่อยังง่าย ![]()
สิ่งที่อยู่นิ่ง ง่ายที่จะเก็บรักษา สิ่งที่ยังไม่เกิด ง่ายที่จะป้องกัน
สิ่งที่อ่อนนุ่ม ง่ายที่จะฉีกขาด สิ่งที่เบาบาง ง่ายที่จะปลิวฟุ้ง
จัดการก่อนที่เหตุจะเกิด จัดระเบียบก่อนที่จะยุ่งเหยิง
ไม้ใหญ่เต็มโอบเริ่มจากหน่อเล็ก เก๋งสูงเก้าชั้นเริ่มจากก้อนดิน
ทางไกลพันลี้เริ่มจากการเดินหนึ่งก้าว
ผู้ที่ทำจะล้มเหลว ผู้ที่จับยึดจะลื่นหลุด
ด้วยปราชญ์มิได้กระทำจึงมิล้มเหลว
มิได้จับยึดจึงมิลื่นหลุด
กิจการงานของผู้คนมักจะล้มเหลวเมื่อใกล้สำเร็จ
ด้วยการใช้ความระมัดระวังในตอนท้ายให้เท่ากับเริ่มแรก
ความล้มเหลวย่อมจะไม่เกิดขึ้น
ดังนั้นปราชญ์ ย่อมปรารถนาในสิ่งที่คนอื่นไม่พึงปรารถนา
และไม่ให้คุณค่าแก่จุดหมายที่บรรลุได้ยาก
เรียนรู้ในสิ่งที่ผู้อื่นมิได้รู้ รื้อฟื้นสิ่งที่คนมากมายได้หลงลืม
ท่านได้ช่วยทำให้ทุกสิ่งเติบโตและเป็นไปตามธรรมชาติ
แต่มิได้หาญไปยุ่งเกี่ยวกับกฎธรรมชาติ.
................................
การไม่แข่งขัน ![]()
ทหารที่กล้าหาญ ไม่ดุร้าย นักสู้ที่ดีไม่โกรธง่าย
ผู้พิชิตที่ยิ่งใหญ่ไม่สู้ในเรื่องเล็กน้อย ผู้รู้จักเลือกใช้คนได้ดีย่อมตั้งตนต่ำกว่าผู้อื่น
นี่คือคุณความดีของการไม่แข่งขันช่วงชิง นี่คือความสามารถในการช่วงใช้คน
นำไปสู่สถานะอันสูงส่ง เคียงคู่กับฟ้าอันมีมาแต่ก่อนเก่าก่อน.
..........................................
ความอ่อนโยนมีชัยต่อทุกสิ่ง ![]()
ไม่มีสิ่งใดจะ อ่อนนุ่มไปกว่าน้ำ และไม่มีสิ่งใดจะยิ่งไปกว่าน้ำ
ในการมีชัยเหนือสิ่งที่แข็ง นับว่าไม่อาจหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบและทดแทน
ความอ่อนแอมีชัย ต่อความแข็งแรง
ความอ่อนโยนมีชัยต่อความแข็งกระด้าง
ไม่มีใครที่ไม่รู้ แต่ไม่มีใครปฎบัติ
ดังนั้นปราชญ์ จึงกล่าวไว้ว่า
ผู้ที่สามารถรับการใส่ร้ายของโลกได้ สมควรที่จะเป็นผู้ดูแลรักษาอาณาจักร
ผู้ที่ทนแบกรับบาปโทษของโลกไว้ได้ สมควรเป็นกษัตริย์ปกครองโลก.
คำพูดที่ตรงไป ตรงมานั้น ดูคล้ายเป็นคำที่บิดเบี้ยวและเป็นคำเท็จ.
........................................................
ถ้อยคำที่แท้ ![]()
คำจริงนั้นฟังดู ไม่ไพเราะ คำที่ไพเราะนั้นไม่มีความจริง
คนดีมิได้พิสูจน์โดยการถกเถียง คนที่ถกเถียงเก่งไม่ใช่คนดี
คนฉลาดรู้ไม่มาก คนรู้มากไม่ฉลาด
ปราชญ์ย่อมไม่ สะสมเพิ่มพูนเพื่อตนเอง ชีวิตของท่านอยู่เพื่อผู้อื่น
แต่ท่านกับยิ่งร่ำรวยขึ้น ท่านให้บริจากแก่ผู้อื่น แต่ท่านยิ่งมีขึ้นทับทวี
วิถีแห่งเต๋า นั้น
มีแต่คุณไม่เคยมีโทษ
วิถีแห่งปราชญ์นั้น
มีแต่ทำการให้สำเร็จ
โดยไม่แก่งแย่งแข่งขัน.
..................
.jpg)