ประมุขโมนาโก ถอดเขี้ยวเล็บแล้ว!!

Pic_92044

เฮ้อ...ในที่สุดราชวงศ์กริมัลดี อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ของโมนาโก ก็สามารถล้างอาถรรพณ์ ที่ถูกตีตราว่าเป็นราชวงศ์ต้องคำสาป ไม่เคยมีใครสมหวังในความรัก เมื่อ "เจ้าชายอัลเบิร์ต ที่ 2" ประมุของค์ใหม่ผู้ครองโมนาโก แคว้นเล็กๆซึ่งร่ำรวยมหาศาลจากบ่อนกาสิโน ทรงประกาศสละโสดอย่างเป็นทางการแล้ว ขณะมีพระชนม์ได้ 52 พรรษา และเตรียมเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับแฟนสาว อดีตนักว่ายน้ำโอลิมปิก สัญชาติแอฟริกาใต้ "ชาร์ลีน วิตต์สต็อก" วัย 32 ปี ในปลายปีนี้ หลังคบหาดูใจกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว 4 ปีเต็ม

การประกาศหมั้นหมายอย่างเป็นทางการของ "เจ้าชายอัลเบิร์ต" พระโอรสองค์เดียวของ "เจ้าชายเรเนียร์ ที่ 3" ประมุของค์ ก่อน ผู้ล่วงลับ ถือเป็นข่าวมงคลที่จุดประกายความหวัง และนำความสุขสดชื่นกลับคืนมาสู่ชาวโมนาโกอีกครั้งในรอบ 30 ปี นับตั้ง แต่ "เจ้าหญิงเกรซ" พระมารดาของเจ้าชายประสบอุบัติเหตุรถคว่ำบนเนินเขาใกล้โมนาโก และสิ้นพระชนม์อย่างน่าอนาถ ซ้ำร้ายผลพิจารณาพระศพ ยังพบว่า "เจ้าหญิงสเตฟานี" พระธิดาองค์เล็กทรงเป็นผู้ขับรถ!! ในครั้งนั้นแคว้นเล็กๆแห่งนี้ต้องจมอยู่ในความเศร้าโศกนานหลายเดือน เนื่องจาก "เจ้าชายเรเนียร์ ที่ 3" ประมุขผู้ครองบัลลังก์ยาวนานที่สุดในยุโรป ทรงสั่งไว้ทุกข์ 3 เดือนเต็มๆ และตลอดพระชนม์ชีพที่เหลืออยู่ ก็ไม่เคยข้องแวะกับสตรีนางใดเลย

ด้วยความที่ "เจ้าชายอัลเบิร์ต" ทรงเป็นรัชทายาทอันดับหนึ่ง ทำให้ถูกพระบิดาเคี่ยวกรำอย่างหนักในทุกเรื่อง เพื่อเตรียมพระองค์ให้ พร้อมสำหรับเป็นประมุขโมนาโก ทรงเรียนรู้ ศาสตร์มากมายหลายแขนง ทั้งด้านรัฐศาสตร์, เศรษฐศาสตร์, วรรณคดีอังกฤษ, ดนตรี, การทหาร, การทูต, วิชา การปกครอง, ปรัชญา และจิตวิทยา ทรงพูดได้ถึง 4 ภาษา คือ อัง-กฤษ-ฝรั่งเศส-อิตาลี-เยอรมัน และยังทรงชำนาญการกีฬาเกือบทุกประเภท จนได้รับการขนานนามให้เป็นเจ้าชายนักกีฬา ทรงเป็นนักเตะให้ทีมฟุตบอลโมนาโกอยู่นาน 4 ปี ทรงได้ยูโดสายดำ และทรงเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ถึง 3 ครั้ง ในฐานะตัวแทนทีมชาติขับแคร่เลื่อนหิมะ

สำหรับเรื่องการเลือกพระชายา ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทรงถูกพระบิดาตั้งกฎเหล็กคุมเข้ม จนกระดิกกระเดี้ยตัวไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เอง แม้จะทรงเป็นเจ้าชายเนื้อหอมเพียงใด และมีสาวๆเข้ามาพัวพันอย่างต่อเนื่องขนาดไหน โดยส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปที่ดารานางแบบ ควงมาหมดแล้วทั้งนาโอมิ แคมป์เบลล์, คลอเดีย ชิฟเฟอร์, บรู๊ก ชิลด์, แองจี้ เอเวอร์ฮาร์ต, แคเทอรีน โอเซนเบิร์ก และวิกทอเรีย ซดร็อค แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีหญิงสาวคนใดสามารถฝ่าด่านอรหันต์เข้ามาเป็นศรีสะใภ้ ของ "เจ้าชายเรเนียร์ ที่ 3" ได้สำเร็จ

จนกระทั่ง "เจ้าชายเรเนียร์ ที่ 3" สิ้นพระชนม์ เมื่อเดือน เม.ย. 2005 และ "เจ้าชายอัลเบิร์ต" เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นประมุของค์ใหม่ ของแคว้นโมนาโก จึงเริ่มเปิดทางสะดวกให้สาวๆที่เคยเป็นคู่ควงเก่าๆ แต่คุณสมบัติไม่ผ่าน ได้มีโอกาสเขยิบชั้นขึ้นมาเป็นแคนดิเดต ชิงตำแหน่งผู้หญิงเบอร์หนึ่งของเจ้าชายหนุ่มใหญ่ รวมถึง "ทาชา วาสคอนเซโลส" นางแบบและดาราไฮโซลูกครึ่งอังกฤษ-โปรตุเกส ซึ่งมาจากตระกูลขุนนางเก่าแก่ของโปรตุเกส เป็นสาวสังคมที่เปรี้ยวเข็ดฟัน และรักๆเลิกๆกับเจ้าชายมาแล้วหลายหน อีกรายที่ท้าชิงตำแหน่งเจ้าหญิงองค์ใหม่ของโมนาโกในช่วงนั้นก็คือ "เทลมา ออร์ทิซ โรคาโซลาโน" มีศักดิ์เป็นน้องสาวแท้ๆของเจ้าหญิงเลติเซีย ซึ่งก็เท่ากับเป็นน้องเมียของเจ้าฟ้าชายเฟลิเป มกุฎราชกุมารแห่งสเปน น่าเสียดายที่ต้องหลุดโผไปเฉยๆ เพราะดันปูดเรื่องความสัมพันธ์ให้ปาปาราซซี่ล่วงรู้

งานนี้ส้มจึงหล่นลงบนตักของอดีตนักว่ายน้ำโอลิมปิก สัญชาติแอฟริกาใต้ "ชาร์ลีน วิตต์สต็อก" ซึ่งเป็นเด็กในคาถาของ "เจ้าชายอัลเบิร์ต" อยู่ก่อนแล้ว โดยเจ้าชายปิ๊งรักสาวน้อยผมทอง รูปร่างสูงโปร่งคนนี้ครั้งแรก เมื่อปี 2000 ตอนที่เจ้าหล่อนเดินทางมาแข่งว่ายน้ำที่โมนาโก และในปีนั้นเอง ฝ่ายหญิงก็ได้เป็นตัวแทนทีมชาติแอฟริกาใต้ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ว่ากันว่าเธอยังรับจ๊อบเป็นครูสอนหนังสือด้วย

กระนั้น ในระยะแรกๆ จังหวะชีวิตรักของทั้งคู่ไม่สู้จะลงตัวเท่าไหร่ จนกระทั่งพระบิดาจอมเฮี้ยบสิ้นพระชนม์ "เจ้าชายอัลเบิร์ต" จึงเพิ่งมีโอกาสเปิดตัวแฟนสาวตัวจริงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก โดยควงคู่นักว่ายน้ำสาวไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูหนาว ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี เมื่อปี 2006 เรียกเสียงฮือฮาอย่างมากในหมู่ปาปาราซซี่ ซึ่งพยายามตามเจาะลึกว่า ประมุของค์ใหม่ของโมนาโกกำลังควงคู่ใครอยู่ หลังจากเมื่อกลางปี 2005 เพิ่งโดนเปิดโปงว่า ทรงแอบมีบุตรนอกสมรส 2 คน โดยคนหนึ่งเป็นบุตรชาย ชื่อว่า "อเล็กซองด์" วัยย่าง 7 ขวบ เกิดกับอดีตแอร์โฮสเตสผิวสีของสายการบินแอร์ ฟรานซ์ ส่วนอีกรายโตเป็นสาววัยรุ่นแล้ว ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีชื่อว่า "จัสมิน เกรซ กริมัลดี"

พอเปิดตัวครั้งแรก ได้รับเสียงชมมากกว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ "เจ้าชายอัลเบิร์ต" เลยเดินหน้าต่อ พาแฟนสาวอายุคราวลูกเดินสายออกงานโชว์ความสวีตถี่ขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการพาออกงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์สุดหรูของรายการแข่งรถฟอร์มูล่าวัน การตามเสด็จร่วมงานการกุศลต่างๆของพระราชวงศ์ โมนาโก ซึ่งมี เจ้าหญิงผู้พี่คือ "เจ้าหญิงแคโรลีน" และเจ้าหญิงผู้น้องคือ "เจ้าหญิงสเตฟานี" เป็นโต้โผใหญ่จัดงาน

อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับกันว่าสัญญาณที่บ่งชี้แน่ชัดที่สุดว่า อีกไม่นานจะมีข่าวดีแน่ๆ ก็เห็นจะเป็นเหตุการณ์

ล่าสุดเมื่อปลาย สัปดาห์ก่อน ที่ประมุของค์ใหม่ของโมนาโก ทรงควง "ชาร์ลีน" เสด็จไปเป็นแขกในงานอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีสวีเดน ซึ่งตามราชประเพณีของราชวงศ์ยุโรป ถือว่าเป็นงานใหญ่ระดับทางการ

และ ก็จริงอย่างที่คาดการณ์เสียด้วย เพราะหลังจากพาออกงานใหญ่ ได้ไม่กี่วัน สำนักพระราชวังโมนาโก ก็ออกแถลงการณ์ประกาศข่าวดี ว่า "เจ้าชายอัลเบิร์ต ที่ 2" ประมุขแห่งแคว้นโมนาโก ได้ทรงหมั้นหมายอย่างเป็นทางการกับแฟนสาว "ชาร์ลีน วิตต์สต็อก" แล้ว เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ในแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงกำหนดวันอภิเษกสมรสที่แน่นอน ทว่าตามธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์ยุโรป เป็นที่ทราบกันดีว่า มักจะทิ้งช่วงห่างอย่างน้อย 6 เดือน ระหว่างพิธีหมั้นกับงานอภิเษกสมรส

ใน ขณะที่เสียงระฆังวิวาห์กำลังจะดังกังวานขึ้นในไม่ช้าไม่นาน ยังคงมีภารกิจอีกมากมายนับไม่ถ้วน รอคอยสมาชิกใหม่ของราชวงศ์กริมัลดีอยู่ข้างหน้า นอกเหนือจากการเข้าคอร์สติวเข้มเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเป็น "เฮอร์ ซีรีน ไฮเนส เดอะ ปรินเซส ออฟ โมนาโก" หรือเจ้าหญิงองค์ใหม่แห่งโมนาโก ซึ่งสาวน้อยร่างระหงได้ค่อยๆเรียนรู้มาทีละเล็กละน้อยบ้างแล้ว ในช่วง 4 ปีที่คบหาดูใจกับเจ้าชาย อีกหนึ่งด่านทดสอบสำคัญที่ท้าทายว่าเธอจะสอบผ่านหรือสอบตก ได้รับการยอมรับให้เป็น "เจ้าหญิงเกรซยุคใหม่" หรือไม่ ก็คือการพิสูจน์ให้ชาวโมนาโกเห็นว่าได้ทำงานและเสียสละเพื่อประชาชนอย่างแท้ จริง มิใช่แค่แต่งตัวสวยออกงานเฉิดฉายไปวันๆ.

ไทยรัฐออนไลน์