"เทสโก้"ประกาศถอนธุรกิจในสหรัฐ "ขาดทุน"เป็นหนี้สูญกว่า 1,530 ล้านดอลล์

มติชนออนไลน์.... เทสโก้ กลุ่มธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ประกาศเตรียมถอนตัวออกจากสหรัฐหลังจากประสบปัญหาขาดทุน ทำให้เทสโก้ต้องตัดเป็นหนี้สูญมูลค่ากว่า 1,530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 44,660.70 ล้านบาท) ทำให้ผลกำไรลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา


กลุ่มเทสโก้ทำธุรกิจในสหรัฐฯ โดยใช้ชื่อธุรกิจว่า "เฟรชแอนด์อีซี" ซึ่งมีสาขากว่า 199 แห่งทั่วสหรัฐฯ ด้วยเงินลงทุน 1,200 ล้านปอนด์ แต่พบว่าบริษัทไม่เคยมีกำไร

บริษัทได้ลงบัญชีมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มฯ ในอังกฤษ ลดลง 804 ล้านปอนด์  และลงบัญชีด้วยมูลค่าทางธุรกิจที่ลดลงในโปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก และตุรกี เป็นมูลค่ารวมกันกว่า 500 ล้านปอนด์  ส่วนกำไรก่อนหักภาษีของทางกลุ่มในปีที่ผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 13 กุมภาพันธ์  มีมูลค่า 1,960 ล้านปอนด์ ลดลง 51.5% จากปีก่อนหน้านี้

เทสโก้เปิดเผยว่า ยอดขายในห้างค้าปลีกในอังกฤษ ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ที่ไม่รวมค่าน้ำมันและภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มขึ้น 0.5% ลดลงจากช่วง 6 สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 มกราคม ซึ่งเติบโตราว 1.8% อันเนื่องมาจากเป็นช่วงการจับจ่ายในเทศกาลคริสต์มาส

ทั้งนี้ เทสโก้ ซึ่งถือเป็นกลุ่มค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ได้ประกาศปรับโครงสร้างภายใน ภายใต้การนำของนายฟิลิป คลาร์ก ซีอีโอคนใหม่ นอกจากการถอนตัวออกจาสหรัฐฯแล้ว เทสโก้ยังประกาศถอนตัวออกจากญี่ปุ่น แต่เผยว่าบริษัทเตรียมขยายธุรกิจเข้าไปยังจีน

กลุ่มยังระบุว่า ยอดค้าปลีกทางออนไลน์ของบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีการเติบโตที่อัตรา 12.8% หรือ 2,300 ล้านปอนด์ ขณะที่ยอดขายรวมตลอดปีในอังกฤษ เพิ่มขึ้น 1.8% หรือมากกว่า 48,000 ล้านปอนด์