ชาวดัตช์เตรียมฉลอง “พระราชพิธีสืบสันตติวงศ์” ราชวงศ์ทั่วโลกเสด็จฯร่วมพิธี


สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ พร้อมด้วยมกุฎราชกุมาร วิลเลม-อเล็กซานเดอร์ และเจ้าหญิงแม็กซิมา เสด็จฯมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงอัมสเตอร์ดัม วานนี้(29) ในการพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่สมาชิกราชวงศ์ต่างประเทศที่เสด็จฯมาร่วมพระราชพิธีสืบสันตติวงศ์

เอเอฟพี - มกุฎราชกุมาร วิลเลม-อเล็กซานเดอร์ แห่งเนเธอร์แลนด์ จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ซึ่งพระชนมายุน้อยที่สุดในภูมิภาคยุโรป หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ จะทรงสละราชสมบัติแด่พระราชโอรสองค์โตในวันนี้(30) ขณะที่ชาวดัตช์ทั่วประเทศเตรียมงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ในโทนสีส้มซึ่งเป็นสีประจำชาติ เพื่อต้อนรับสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์แรกในรอบ 123 ปี
     
       ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า มกุฎราชกุมาร วิลเลม อเล็กซานเดอร์ พระชันษา 46 ปี จะเสด็จฯขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ดัตช์พระองค์แรกตั้งแต่ปี 1890 เป็นต้นมา และจะทรงเป็น“คลื่นลูกใหม่” ในบรรดากษัตริย์ยุโรป ซึ่งโดยเฉลี่ยมีพระชนมายุเกิน 70 พรรษาขึ้นไปแล้วทั้งสิ้น
     
       กรุงอัมสเตอร์ดัมเตรียมรับผู้มาเยือนอย่างน้อย 800,000 คน ซึ่งจะเดินทางจากทุกสารทิศมาจับจองพื้นที่ริมถนนและแม่น้ำ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในวโรกาสสำคัญที่สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์จะทรงสละราชสมบัติ อันเป็นการปิดฉากรัชสมัยที่ยาวนานถึง 33 ปีของพระองค์ เพื่อให้พระราชโอรสองค์ใหญ่ทรงสืบทอดตำแหน่งประมุขของชาติต่อไป
     
       สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์จะทรงลงพระนามสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการในเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (17.00 น. ตามเวลาในไทย) ซึ่งนับแต่นาทีนั้น องค์มกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงแม็กซิมา พระชายา ก็จะทรงมีสถานะเป็นกษัตริย์และราชินีพระองค์ใหม่แห่งเนเธอร์แลนด์
     
       ทั้งสามพระองค์จะเสด็จฯออก ณ ระเบียงมุขพระราชวังหลวงในกรุงอัมสเตอร์ดัม เพื่อทรงทักทายพสกนิกรที่มารอเฝ้าฯ ที่ จตุรัส แดม สแควร์
     
       เจ้าชายวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ จะทรงประกอบพิธีสาบานตนแทนการสวมมงกุฎ ณ มหาวิหาร Nieuwe Kerk ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังหลวง โดยมีบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาร่วมเป็นสักขีพยาน
     
       นอกจากพระบรมวงศานุวงศ์ในราชวงศ์ออเรนจ์แล้ว ยังมีสมาชิกราชวงศ์ทั่วโลกอีกราว 20 พระองค์ที่เสด็จฯมาร่วมในพระราชพิธีสืบสันตติวงศ์ในวันนี้ อาทิ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฏราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักร และดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์, เจ้าชายฟิลิเปแห่งสเปน, เจ้าชายโฮกุ้น มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ และเจ้าหญิงเมตเต-มาริต พระชายา รวมถึงเจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฏราชกุมารแห่งญี่ปุ่น และเจ้าหญิงมาซาโกะ พระชายา ซึ่งเสด็จฯเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี
     
       ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงร่วมพระราชพิธีสืบสันตติวงศ์ ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม
     
       ตามธรรมเนียมปฏิบัติในพระราชพิธีสืบสันตติวงศ์ของเนเธอร์แลนด์ จะมีการทูลเชิญเฉพาะเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงจากต่างแดนที่ยังไม่เสด็จฯขึ้นครองราชย์เข้าร่วมในพิธี
     
       พสกนิกรชาวดัตช์จะพร้อมใจกันเปล่งเสียงร้องเพลง Koningslied ซึ่งเป็นเพลงสดุดีพระเกียรติคุณของกษัตริย์ ก่อนที่ว่าที่สมเด็จพระราชาธิบดีพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ จะประทับเรือพระที่นั่งในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคที่อ่าวไอย์ (IJ) ในช่วงเย็นวันนี้(30)
     
       มกุฎราชกุมารแห่งเนเธอร์แลนด์ พระราชทานสัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนว่า ทรงมีพระประสงค์แรงกล้าที่จะสืบทอดสถาบันกษัตริย์ดัตช์ซึ่งยืนยงมานานถึง 200 ปีแล้ว แต่ขณะเดียวกันก็จะทรงเป็นกษัตริย์ในศตวรรษที่ 21 ที่ประชาชนสามารถ “เข้าถึงได้”
     
       “ประการแรก ข้าพเจ้าจะเป็นพระมหากษัตริย์ตามโบราณราชประเพณี จะสืบทอดธรรมเนียมของบูรพกษัตริย์ซึ่งทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความต่อเนื่อง และเสถียรภาพของชาติ”
     
       “ประชาชนจะเรียกข้าพเจ้าเช่นใดก็สุดแล้วแต่ เพราะนั่นจะทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจมากกว่า”
     
       เจ้าชายทรงเน้นด้วยว่า กษัตริย์มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของปวงชน และทรงพร้อมที่จะรับบทบาทใดๆก็ตามที่รัฐสภามอบหมาย ทรงตั้งพระทัยที่จะเป็น “กษัตริย์ผู้หลอมรวมสังคมให้เป็นหนึ่ง โดยเป็นตัวแทนและเป็นแรงบันดาลใจแก่สังคมในศตวรรษที่ 21”

 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
 เจ้าชาย อัล-มุห์ตาดี บิลลาห์ โบลเกียห์ มกุฎราชกุมารแห่งบรูไน และเจ้าหญิงซาราห์ พระชายา

 เจ้าฟ้าชายชาร์ลสแห่งสหราชอาณาจักร และ คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์



แหล่งข้อมูล ผู้จัดการออนไลน์