ปรัชญาของเต๋า

   เล่าจื้อ ผู้กำเนิดลัทธิเต๋า 

ทุกสิ่งอุบัติขึ้นด้วยการเปรียบเทียบ  


  • เมื่อคนในโลกรู้จักความสวยว่าสวย ความน่าเกลียดก็อุบัติขึ้น
  • เมื่อคนในโลกรู้จักความดีว่าดี ความชั่วก็อุบัติขึ้น
  • มีกับไม่มีเกิดขึ้นด้วยการรับรู้ ยากกับง่ายเกิดขึ้นด้วยความรู้สึก
  • ยาวกับสั้นเกิดขึ้นด้วยการเปรียบเทียบ สูงกับต่ำเกิดขึ้นด้วยการเทียบเคียง
  • เสียงดนตรีกับเสียงสามัญเกิดขึ้นด้วยการรับฟัง หน้ากับหลังเกิดขึ้นด้วยการนึกคิด
  • ปราชญ์ย่อมกระทำด้วยการไม่กระทำ เทศนาด้วยการไม่เอ่ยวาจา การงานทั้งหลายก็สำเร็จลุล่วงลง
  • ท่านให้ชีวิตแก่สรรพสิ่ง แต่มิได้ถือตนเองเป็นเจ้าของ ประกอบกิจการยิ่งใหญ่ แต่มิได้ประกาศให้โลกรู้
  • เหตูที่ท่านไม่ปรารถนาในเกียรติคุณ เกียรติคุณของท่านจึงดำลงอยู่ไม่สูญสลาย.

..........................................................................

 มิได้อยู่เพื่อตนเอง 


  • ฟ้ามีอายุยาวนาน ดินมีอายุยาวนาน เหตุเพราะฟ้าและดินมิได้ดำรงอยู่เพื่อตนเอง   จึงอยู่ได้คงทน
  • ปราชญ์ย่อมตั้งตนอยู่รั้งท้าย และก็จะกลับกลายเป็นหน้าสุด
  • ละเลยตนเอง แต่กลับมีชีวิตอยู่ได้ด้วยดี
  • เพราะปราชญ์มิได้อยู่เพื่อตนเองหรือมิใช่ ตัวตนของท่านจึงถึงซึ่งความสมบูรณ์.

..............................................................

 กากเดนแห่งคุณความดี   


  • ผู้ที่ยืนเขย่งบนปลายเท้าจะยืนได้ไม่มั่นคง ผู้ที่เดินเร็วเกินไปจะเดินได้ไม่ดี
  • ผู้ที่แสดงตนให้ปรากฎจะไม่เป็นที่รู้จัก ผู้ที่ยกย่องตนเองจะไม่มีใครเชื่อถือ
  • ผู้ที่ลำพองจะไม่ได้เป็นหัวหน้าในหมู่คน
  • สิ่งเหล่านี้ในทัศนะของเต๋าแล้วย่อมเรียกได้ว่า กากเดนและเนื้อร้ายของคุณความดี อันเป็นสิ่งที่พึงเหยียดหยาม ดังนั้นบุคคลผู้ยึดมั่นในหนทางแห่งเต๋า พึงหลีกเลี่ยงจากสิ่งเหล่านี้


 รู้จักตนเอง   


  • ผู้ที่เข้าใจคนอื่นคือผู้รอบรู้ ผู้ที่เข้าใจตนเองคือผู้รู้แจ้ง
  • ผู้ที่มีชัยต่อคนอื่นคือผู้มีกำลัง ผู้ที่มีชัยต่อตนเองคือผู้เข้มแข็ง
  • ผู้ที่มักน้อยคือผู้ร่ำรวย ผู้ที่มีมานะพยายามคือผู้มีความหวัง
  • ผู้ที่อยู่ในสถานะอันเหมาะสมของตนเอง ย่อมอยู่ได้นาน
  • ถึงแม้ผู้นั้นจะสิ้นชีวิตไปแล้ว แต่คุณความดียังอยู่สืบไป.

................................................

 ชนะแข็งด้วยอ่อน   


  • ผู้ที่ถูกลดทอน จะต้องมีมาก่อน
  • ผู้ที่อ่อนแอ จะต้องเข้มแข็งมาก่อน
  • ผู้ที่ตกต่ำ จะต้องยิ่งใหญ่มาก่อน
  • ผู้ที่ได้รับ จะต้องให้มาก่อน
  • ความอ่อนละมุนมีชัยเหนือความแข็งกร้าว
  • ควรปล่อยให้มัจฉาอยู่ในสระลึกจะดีกว่า เหมือนดั่งเก็บงำศัตราวุธทั้งมวล ของบ้านเมืองไว้มิให้ใครแลเห็น.

......................................................

 ระดับสูง 


  • เมื่อคนในระดับสูงได้รับฟังเต๋า ก็ปฎิบัติตามอย่างมีมานะ
  • เมื่อคนในระดับปานกลางได้รับฟังเต๋า บางครั้งก็เข้าใจบ้างครั้งก็ไม่เข้าใจ
  • เมื่อคนในระดับต่ำสุดได้รับฟังเต๋า ก็หัวเราะเยาะด้วยเสียงอันดัง หากมิถูกหัวเราะเยาะก็คงจะมิใช่เต๋าแล้ว
  • ดังนั้นจึงมีคำกล่าวไว้ว่า เต๋าอันกระจ่างแจ้งคล้ายดังมืดมน
  • เต๋าอันรุดหน้าคล้ายดังถดถอย เต๋าอันราบรื่นคล้ายดั่งขรุขระ
  • สีขาวบริสุทธิ์คล้ายดั่งมืดดำ คุณความดีอันสูงสุดคล้ายดั่งต้อยต่ำ
  • คุณความดีอันเลอเลิศคล้ายดั่งบกพร่อง   
  • คุณความดีอันหนักแน่นคล้ายเลื่อนลอย
  • ธรรมชาติอันง่าย ๆ คล้ายดั่งแปรเปลี่ยน
  • รูปจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดนั้นไม่มีมุม ภาชนะที่ใหญ่สุดนั้นไม่เคยสร้างสำเร็จ
  • เสียงดนตรีอันยิ่งใหญ่นั้นยากที่จะได้ยิน ภาพอันยิ่งใหญ่นั้นไม่อาจมองเห็น
  • เต๋าอันเคลือบคลุมซ่อนเร้นนั้นไร้ชื่อ
  • มีเพียงเต๋าเท่านั้นที่เสริมสร้างบำรุงเลี้ยง และให้ความสมบูรณ์แก่สรรพสิ่ง

............................................................

 คล้าย 


  • สิ่งที่สมบูรณ์ที่สุด คล้ายดั่งมีความบกพร่องอยู่ แต่คุณประโยชน์ของมันไม่มีที่สิ้นสุด
  • สิ่งที่เต็มเปี่ยมที่สุด คล้ายดั่งมีความว่างเปล่าอยู่ แต่คุณประโยชน์ของมันไม่มีที่สิ้นสุด
  • ที่ตรงที่สุดคล้ายดังคดงอ ที่ชาญฉลาดที่สุดคล้ายดังโง่เขลา
  • ที่เปี่ยมด้วยโวหารคล้ายดังขัดข้องติดอ่าง
  • เมื่อเคลื่อนไหวทำให้หายหนาว เมื่อหยุดนิ่งทำให้หายร้อน ผู้มีความนิ่งมีความสงบ จึงเป็นแบบอย่างอันเลอเลิศของจักรวาล

.................................................

  หยั่งรู้  


  • โดยมิได้ย่างเท้าออกนอกประตู ก็อาจรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก
  • โดยมิได้มองออกนอกหน้าต่าง ก็อาจเห็นเต๋าแห่งสรวงสวรรค์
  • ยิ่งเดินทางแสวงหาไกลออกไปเท่าใด ยิ่งรู้น้อยลงเท่านั้น
  • ดังนั้นปราชญ์อาจรู้โดยมิต้องเดินทาง อาจเข้าใจโดยมิต้องมองเห็น อาจสัมฤทธิ์ผลโดยมิต้องกระทำ

.............................

 คุณความดีอันล้ำลึก   


  • เต๋าให้กำเนิดแก่สรรพสิ่ง คุณธรรมให้การบำรุงเลี้ยง
  • วัตถุธาตุให้รูปทรง สิ่งแวดล้อมช่วยทำให้สมบูรณ์ ดังนั้นสรรพสิ่งในสากลจักรวาล จึงเทิดทูนเต๋าและยกย่องคุณธรรม
  • เต๋าได้รับการเทิดทูนและคุณธรรมได้รับการยกย่องมิใช่ด้วยการบังคับขู่เข็ญของผู้ใด แต่เป็นไปด้วยตนเอง
  • เต๋าให้กำเนิด คุณธรรมให้การบำรุงเลี้ยง ทำให้สรรพสิ่งเติบโตแผ่ขยาย ให้สถานที่พักอาศัย เลี้ยงดูและปกปักรักษา
  • ให้กำเนิดแต่มิได้ครอบครอง บำรุงเลี้ยงแต่มิได้ถือเป็นความดี
  • มีความยิ่งใหญ่แต่มิได้เข้าบังคับบัญชา นี่คือคุณธรรมอันล้ำลึก

................................................

 เหนือโลก 


  • ผู้ที่รู้ไม่พูด ผู้ที่พูดไม่รู้
  • ถมช่องว่าง
  • ปิดประตู
  • ที่คมทำให้ทื่อ
  • ที่ยุ่งแก้ให้หลุด
  • ที่กระจ่างเกินไป ก็ลดลงเสียบ้าง
  • ที่วุ่นวายหลีกให้พ้น นี่คือเอกภาพอันล้ำลึก


เมื่อทำได้ดังนี้ ทั้งความรักและความเกลียดก็ไม่อาจแผ้วพานการได้ หรือการสูญเสียก็ไร้ความหมายมีเกียรติหรือต่ำต้อยก็มีผลเท่ากัน

ผู้ที่ทำได้ดังนั้นจึงเป็นผู้มีเกียรติสูงสุดอย่างแท้จริงในโลกนี้
................

 ยากกับง่าย  


  • ทำด้วยการไม่กระทำ   ดูแลด้วยการไม่ดูแล
  • ลิ้มรสด้วยการไม่ลิ้มรส   
  • ถือที่เล็กเสมือนใหญ่
  • ถือที่น้อยเสมือนมาก   
  • ตอบแทนความชั่วด้วยความดี
  • จัดการกับสิ่งที่ยุ่งยากในขณะที่ยังง่าย   
  • จัดการกับสิ่งที่ใหญ่ในขณะที่ยังเล็ก
  • ปัญหาที่แก้ยากของโลก จะต้องแก้ไขในขณะที่ยังง่ายอยู่ ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของโลก จะต้องแก้ไขขณะที่ยังเล็กอยู่

ดังนั้นการที่ปราชญ์ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานใหญ่ งานอันยิ่งใหญ่ก็สำเร็จลง.
......................................................

 เริ่มทำเมื่อยังง่าย   


  • สิ่งที่อยู่นิ่งง่ายที่จะเก็บรักษา สิ่งที่ยังไม่เกิดง่ายที่จะป้องกัน
  • สิ่งที่อ่อนนุ่มง่ายที่จะฉีกขาด    
  • สิ่งที่เบาบางง่ายที่จะปลิวฟุ้ง
  • จัดการก่อนที่เหตุจะเกิด จัดระเบียบก่อนที่จะยุ่งเหยิง
  • ไม้ใหญ่เต็มโอบเริ่มจากหน่อเล็ก   เก๋งสูงเก้าชั้นเริ่มจากก้อนดิน
  • ทางไกลพันลี้เริ่มจากการเดินหนึ่งก้าว
  • ผู้ที่ทำจะล้มเหลว ผู้ที่จับยึดจะลื่นหลุด ด้วยปราชญ์มิได้กระทำจึงมิล้มเหลว
  • มิได้จับยึด จึงมิลื่นหลุด
  • กิจการงานของผู้คนมักจะล้มเหลวเมื่อใกล้สำเร็จ ด้วยการใช้ความระมัดระวังในตอนท้ายให้เท่ากับเริ่มแรกความล้มเหลวย่อมจะไม่เกิดขึ้น
  • ดังนั้นปราชญ์ย่อมปรารถนาในสิ่งที่คนอื่นไม่พึงปรารถนา และไม่ให้คุณค่าแก่จุดหมายที่บรรลุได้ยาก
  • เรียนรู้ในสิ่งที่ผู้อื่นมิได้รู้ รื้อฟื้นสิ่งที่คนมากมายได้หลงลืม
  • ท่านได้ช่วยทำให้ทุกสิ่งเติบโตและเป็นไปตามธรรมชาติ แต่มิได้หาญไปยุ่งเกี่ยวกับกฎธรรมชาติ

................................

 การไม่แข่งขัน 


  • ทหารที่กล้าหาญไม่ดุร้าย นักสู้ที่ดีไม่โกรธง่าย
  • ผู้พิชิตที่ยิ่งใหญ่ไม่สู้ในเรื่องเล็กน้อย ผู้รู้จักเลือกใช้คนได้ดีย่อมตั้งตนต่ำกว่าผู้อื่น

นี่คือคุณความดีของการไม่แข่งขันช่วงชิง นี่คือความสามารถในการช่วงใช้คน นำไปสู่สถานะอันสูงส่ง   เคียงคู่กับฟ้าอันมีมาแต่ก่อนเก่าก่อน
..........................................

 ความอ่อนโยนมีชัยต่อทุกสิ่ง 


  • ไม่มีสิ่งใดจะอ่อนนุ่มไปกว่าน้ำ และไม่มีสิ่งใดจะยิ่งไปกว่าน้ำ ในการมีชัยเหนือสิ่งที่แข็ง นับว่าไม่อาจหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบและทดแทน
  • ความอ่อนแอมีชัยต่อความแข็งแรง
  • ความอ่อนโยนมีชัยต่อความแข็งกระด้าง
  • ไม่มีใครที่ไม่รู้ แต่ไม่มีใครปฎบัติ
  • ผู้ที่สามารถรับการใส่ร้ายของโลกได้ สมควรที่จะเป็นผู้ดูแลรักษาอาณาจักร ผู้ที่ทนแบกรับบาปโทษของโลกไว้ได้   สมควรเป็นกษัตริย์ปกครองโลก
  • คำพูดที่ตรงไปตรงมานั้น ดูคล้ายเป็นคำที่บิดเบี้ยวและเป็นคำเท็จ

........................................................

 ถ้อยคำที่แท้   


  • คำจริงนั้นฟังดูไม่ไพเราะ คำที่ไพเราะนั้นไม่มีความจริง
  • คนดีมิได้พิสูจน์โดยการถกเถียง คนที่ถกเถียงเก่งไม่ใช่คนดี
  • คนฉลาดรู้ไม่มาก คนรู้มากไม่ฉลาด
  • ปราชญ์ย่อมไม่สะสมเพิ่มพูนเพื่อตนเอง ชีวิตของท่านอยู่เพื่อผู้อื่น 
  • ท่านกับยิ่งร่ำรวยขึ้นเมื่อท่านบริจาคแก่ผู้อื่นดังนั้นท่านยิ่งมีขึ้นทับทวี
  • วิถีแห่งเต๋านั้นมีแต่คุณไม่เคยมีโทษ วิถีแห่งปราชญ์นั้นมีแต่ทำการให้สำเร็จโดยไม่แก่งแย่งแข่งขัน
บทความที่เกี่ยวข้อง