นาย โรเบิร์ต คลาร์ก อัยการสูงสุดแห่งรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย เปิดเผยวันนี้ว่า พนักงานชาวออสเตรเลียที่คอยกลั่นแกล้งหรือรังแกเพื่อนร่วมงาน อาจถูกลงโทษด้วยการจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี ตามกฎหมายใหม่ที่เพิ่งมีการเสนอ หลังมีพนักงานร้านกาแฟคนหนึ่งฆ่าตัวตาย
นายคลาร์ก เปิดเผยว่า เขาจะนำกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภารัฐวิคตอเรีย เพื่อแสดงให้เห็นว่า การกลั่นแกล้งผู้อื่นถือเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่งที่มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี
การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวอาจหมายความถึงคดีที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ เหตุการณ์ที่ โบรดี้ แพนล็อก หญิงสาววัย 19 ปี ซึ่งตัดสินใจฆ่าตัวตายจนเสียชีวิตในปี 2006 หลังถูกกลั่นแกล้งทั้งทางร่างกายและจิตใจเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งผู้ถูกพิจารณาว่ากระทำผิดอาจต้องถูกจำคุก
แพนล็อคฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงจากดาดฟ้าอพาร์ทเมนต์ของเธอ หลังจากถูกกลั่นแกล้งอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ด้วยการถ่มน้ำลายใส่ รวมถึงพูดจาดูถูกว่าเธอ"อ้วน"และ"น่าเกลียด"อยู่บ่อยครั้ง จากเพื่อนร่วมงานที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในนครเมลเบิร์น
ระหว่างการพิจารณาของศาลครั้งหนึ่ง เพื่อนร่วมงานของเธอสารภาพว่า ได้กลั่นแกล้งเธอด้วยการเทน้ำมันปลาใส่กระเป๋า รวมถึงศีรษะและเสื้อผ้า จนกระทั่งเธอร้องไห้ และพูดจาเสียดสีเธอเมื่อการฆ่าตัวตายครั้งแรกไม่สำเร็จ
หลังจากที่น.ส.แพนค็อก ประสบความล้มเหลวในความพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินยาเบื่อหนู พนักงานคนหนึ่งได้แอบใส่ยาเบื่อหนูลงไปในกระเป๋าของเธอ ขณะที่เพื่อนร่วมงานอีกค้นกล่าวกระตุ้นให้เธอกินยาอีกครั้ง
ตามกฎหมายฉบับเดิม ศาลได้สั่งปรับเพื่อนร่วมงาน 3 คน และเจ้าของร้าน เป็นจำนวนเงิน 335,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 10.6 ล้านบาท) แต่ไม่มีผู้ใดถูกจำคุก
ขณะที่พ่อแม่ของเธอกล่าวยินดีต่อการเตรียมออกกฎหมายฉบับนี้ "ฉันคิดว่า นั่นจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ต่อการปฏิบัติต่อกันในสถานที่ทำงาน แม้ว่าครั้งนั้นโบรดี้จะไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ครั้งนี้มันเกิดขึ้นแล้ว"
มติชนออนไลน์