ชี้คู่รักเตียงหักมากขึ้นเพราะ "เฟซบุ๊ก"




แม้คนส่วนใหญ่จะเชื่อว่าเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังอย่างเฟซบุ๊กจะช่วยให้ พวกเขาได้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัวได้สะดวกมากขึ้น แต่ทว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายครอบครัวกลับออกโรงเตือนว่า เฟซบุ๊กเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักจำนวนไม่น้อยต้องร้าว ฉานหรือขาดสะบั้นลง...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ม.ค. โดยอ้างผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายครอบครัวจากสำนักกฎหมายแห่งหนึ่งที่ออกมาเปิด เผยว่า ในปีที่ผ่านมาทางบริษัทพบปัญหาการหย่าร้างของลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่จะมีสาเหตุ เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ประเภทโซเชียล เน็ตเวิร์ค โดยในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีกรณีหย่าร้างกว่า 30 คดีเกี่ยวข้องกับเฟซบุ๊ก

เอม มา พาเทล ประธานฝ่ายกฎหมายครอบครัวแห่งสำนักทนายความฮาร์ท สเกลส์ แอนด์ ฮ็อดเจส โซลิซิเตอร์ส กล่าวว่า เว็บไซต์ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์ทำหน้าที่ไม่ต่างอะไรจากการเป็น "มือที่สามแบบเสมือนจริง" ที่ทำให้คู่รักต้องหย่าร้างหรือแยกทางกัน โดยในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีคู่รัก หรือคู่สามีภรรยาหลายคู่ใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือในการหาหลักฐานจับผิดซึ่ง กันและกัน หลายคู่มีปากเสียงกันเพราะระแวงว่าคนรักของตนจะแอบปันใจให้กับคนที่รู้จัก กันผ่านทางเฟซบุ๊ก นอกจากนั้น ยังพบว่าหลายคู่เลิกรากันเพียงเพราะไม่พอใจข้อความหรือคำพูดไม่เหมาะสมต่างๆ ที่คนรักของตนไปโพสต์ไว้บนเฟซบุ๊ก ขณะเดียวกัน ยังพบข้อมูลว่า หลายคู่ที่เลิกรากันไปแล้วยังใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือในการตามไปเยาะเย้ย ถากถางซึ่งกันและกันอย่างไม่จบไม่สิ้น เช่น การนำรูปแฟนใหม่ไปโพสต์เพื่อทำร้ายความรู้สึกของอดีตคนรักที่เพิ่งเลิกรากัน ไป เป็นต้น

อย่างไรก็ดี โฆษกของเครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับ 1 ของโลกอย่างเฟซบุ๊กซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองพาโล อัลโต ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียได้ออกมาตอบโต้ โดยยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระสิ้นดีที่ใครก็ตามที่มองว่า เฟซบุ๊กเป็นตัวการสำคัญในการทำลายความสัมพันธ์ เพราะในความเป็นจริงแล้ว การเลิกรากันถือเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน ไม่เกี่ยวข้องกับเฟซบุ๊กแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของผู้ใช้เฟซบุ๊กไม่ว่าจะเป็นด้านดี หรือไม่ดี ล้วนเป็นผลจากการกระทำของแต่ละบุคคลเอง.

ที่มาหนังสือพิมพ์