ชาช่วยยั้บยังการสะสมของไขมันในร่างกาย



ผลวิจัยพบว่าการบริโภคชาจะช่วยยั้บยั้งความเสียหายของเลือดที่เชื่อมโยงกับไขมันในอาหารที่นำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ ในการศึกษา โดยให้หนูกินอาหารที่มีไขมันสูงและอาหารปกติ และแบ่งสองกลุ่มเป็นกลุ่มย่อยๆอีก

ต่อจากนั้นให้เครื่องดื่มที่ไม่เหมือนกันในแต่ละกลุ่ม มีน้ำเปล่า ชาดำ ชาเขียว ในเวลา 14 สัปดาห์
กลุ่มที่ดื่มชาทั้งสองชนิดยั้บยั้งการเพิ่มของน้ำหนักตัวและการสะสมของไขมันหน้าท้องเนื่องจากการกินอาหารไขมันสูง แต่ชาดำนั้นช่วยลดอัตรายของไขมันในเลือดได้ดีกว่า การศึกษาของมหาวิทยาลัยโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกเผยแพร่ในในวารสารเกษตรและเคมีอาหาร

พบว่าการเพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอล น้ำตาลในเลือดสูง และ การต่อต้านอินซูลิน โรคเบาหวานชนิดที่ 2
จะมีผลต่อการผลิตสารอินซูลิน โรคอ้วนในประเทศตะวันตกเพิ่มขึ้นส่งผลให้คนจำนวนไม่น้อยมีการต่อต้านอินซูลลิน 8 ใน 10 ของชาวอังกฤษที่ดื่มชา ดร.แครี่ ลุกตัน ผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมชาดำ กล่าวว่า การศึกษาพบข่าวดีสำหรับผู้ดื่มชาดำ ′แม้ว่าผลการวิจัยจำเป็นต้องได้รับการยืนยันในการศึกษาของมนุษย์การศึกษา ครั้งนี้พบว่าชาช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ พึงประสงค์ในระดับน้ำตาลในเลือด, การแพ้น้ำตาลกลูโคสดื้อต่ออินซูลินและการควบคุมระดับไขมันในหลอดเลือดอาหาร ไขมันสูง ชาดำสามารถต่อต้านอินซูลินและลดคอเลสเตอรอลในเลือด การดื่มชายังเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

โรคมะเร็งและโรคพาร์กินสัน จากงานวิจัยอื่นๆ บ่งบอกว่าการดื่มชาเป็นประจำเป็นเวลา 10 ปีจะช่วยเพิ่มมวลกระดูกได้ แต่แตกต่างกับโกจิเบอรี่ที่เป็นที่นิยม และถูกยกย่องให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงสามารถต่อต้านริ้วรอย ป้องการการเป็นมะเร็งทั้งที่ไม่มีการพิสูจน์ยืนยันผล ศาสตราจารย์ เอ็มเมริโอ มาติเนส แห่งมหาวิทยาลัยแกรนนาดา เตือนว่าเบอรี่เป็นเพียงแฟชั่นเท่านั้น


ข้อมูลจาก : เดลี่เมล์ออนไลน์