ทะยานขึ้นตึก(ที่เคย)สูงที่สุดในโลก ด้วยลิฟต์(ที่ยัง)เร็วที่สุดในโลก

สิ่งหนึ่งที่ผู้เข้าร่วมโครงการ "Taiwan Study Camp for Future Leaders from Australia, New Zealand, and Southeast Asians Countries" ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงต่างประเทศของไต้หวัน เห็นตลอดการเดินทางไปมาในกรุงไทเปตลอด 10 วัน คือ "ตึก ไทเป 101" (Taipei one-o-one) ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่มุมใดก็ต้องเห็นตึกสีฟ้าเขียว ขณะที่ยอดตึกหายไปในกลุ่มเมฆบนผืนฟ้า


ตึกไทเป 101 มีชื่อมาจากจำนวนชั้นทั้งหมด 101 ชั้น โดยถูกออกแบบบนพื้นฐานเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อลดอันตรายจากแรงลมและแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยบนเกาะนี้ นอกจากนี้ ตึกนี้ยังเคย เป็น "ตึกที่สูงที่สุดในโลก" ด้วยความสูง 509 เมตร ตั้งแต่เริ่มเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2547 จนกระทั่งถึงวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ตึกนี้ได้ถูกตึก "บูร์จคาลิฟา" ของดูไบ เบียดขึ้นมาครองแชมป์ด้วยความสูง 828 เมตรอย่างเฉียดฉิว


ถึงแม้จะไม่ได้เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก แต่ตึกนี้ยังครองแชมป์ "ลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก" ที่มีป้ายอ้างไว้ว่าใช้เวลาเพียง 37 วินาที ทะยานด้วยความเร็ว 37.7 ไมล์จากชั่วโมง จากขั้น 5 ถึงชั้น 89 ซึ่งเป็นชั้นชมวิวในอาคารแบบ 360 องศา


แต่ลิฟต์ตัวประวัติศาสตร์นี้ไม่ได้อยู่ชั้นล่างเหมือนตึกทั่วไป เราต้องเดินวนบันไดเลื่อนผ่านร้านแบรนด์เนมถึง 5 ชั้นก่อน และต่อคิวร่วมกับนักท่องเที่ยวที่แห่มาพิสูจน์ความเร็ว เมื่อลิฟท์มาถึง เราก็พุ่งเข้าไปหาที่ยืนในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ อย่างไม่รอช้า และนับเวลาถอยหลังเตรียมตัวเหินฟ้า


ถ้าไม่มีมีอาการหูอื้อ และจอแสดงตำแหน่งของลิฟต์ตัวนี้ คงไม่แน่ใจว่าเราอยู่ในลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลกจริงหรือเปล่า แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะพริบตาเดียว เรามาโผล่ที่ชั้น 89 จริงๆ ทุกคนในลิฟต์ต่างลงความเห็นว่า นอกจากเร็วแล้ว ลิฟต์ตัวนี้ยังน่าจะได้แชมป์ลิฟต์ที่นุ่มที่สุดด้วย


เดินขึ้นไปถึงชั้น 91 ซึ่งเป็นลานชมวิว เพื่อชมความงามของกรุงไทเปได้ไม่นาน จากม่านหมอก กลายเป็นละอองน้ำ และเริ่มเปลี่ยนเป็นเม็ดฝนเม็ดใหญ่ในที่สุด บดบังทัศนียภาพอันกว้างไกลไปจนไม่เห็นอะไร ก่อนตัดสินใจหันหลังกลับเดินลงมาบันได มาใช้ลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลกดิ่งกลับสู่พื้นผิวโลกอีกครั้ง


ระหว่างอยู่ในลิฟต์ คิดถึงสัจธรรมข้อหนึ่ง ..

"มีขึ้นก็ย่อมมีลง" จากที่ 1 ก็เหลือแค่เคยเป็น แล้วนับประสาอะไรกับชีวิตคนเรา..


มติชนออนไลน์