กลุ่มชาวเกาหลีเหนือซึ่งแปรพักตร์มาอยู่กับเกาหลีใต้ กล่าวในวันนี้ (6 ธค.) ว่า ประชาชนชาวเกาหลีเหนือมากกว่า 1,000 คน ถูกจับกุม หลังจากแอบดูรายการและละครทางโทรทัศน์จากเกาหลีใต้ ซึ่งสืบเนื่องจากนโยบายอันเข้มงวดของรัฐบาลในการรับสื่อต่างๆจากโลกภายนอก
โดยกลุ่มเอกภาพปัญญาชนเกาหลีเหนือ กล่าวว่า แหล่งข่าวกล่าวว่า ประชาชนประมาณ 1,200 รายถูกสั่งจำคุกในเรือนจำที่เมืองแกชอน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเกาหลีเหนือ ในความผิดดังกล่าว
การรับเอาวัฒนธรรมจากต่างชาติเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับประชาชนทั่วไปใน เกาหลีเหนือ โดยผู้ที่ละเมิดข้อห้ามดังกล่าวอาจถูกปรับหรือถูกจำคุก แต่ด้วยกระแสความนิยมในการบริโภคแผ่นดีวีดีภาพยนตร์ และซีดีเพลงที่ผิดกฏหมายจากประเทศจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรและคู่ค้าที่สำคัญของเกาหลีเหนือ ทำให้กระแสความนิยมในการเสพวัฒนธรรมด้านต่างๆจากเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น อย่างมาก
"ทางเรือนจำกล่าวว่านี่เป็นครั้งแรก ที่จำนวนผู้ต้องขังจากความผิดในการลักลอบดูละครของเกาหลีใต้ มีจำนวนสูงกว่า 1,000 ราย และตอนนี้นักโทษในคดีดังกล่าวก็เกือบจะล้นเรือนจำอยู่แล้ว" กลุ่มเอกภาพฯกล่าว
โดยกลุ่มอ้างถึงแหล่งข่าวในกรุงเปียงยาง ซึ่งระบุว่า ทางการได้ทำการจัดตั้งกองตำรวจเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทำหน้าที่ปราบปรามผู้กระทำผิดในข้อหาดังกล่าว ซึ่งถูกเรียกว่า "จิตวิญญาณอันเสื่อมทราม" และผู้ที่ถูกจับกุมได้อาจต้องโทษระหว่าง 2-5 ปี และอาจถูกลงโทษด้วยวิธีการที่รุนแรกว่านักโทษในคดีอื่นๆ
กลุ่มผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าทางการเกาหลีเหนือพยายามโดดเดี่ยวตนเองหรือตั้งกฏข้อบังคับอันเข้มงวด มากเพียงใด แต่ก็คงไม่อาจต้าน "คลื่นวัฒนธรรมเกาหลี" หรือ “Hallyu” ที่แพร่ระบาดไปทั่วภูมิภาคเอเชียได้
เว็บไซด์หนังสือพิมพ์เดลี่ เอ็นเค ของเกาหลีใต้ เปิดเผยเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า ทางการเกาหลีเหนือเตรียมมาตรการลงโทษขั้นรุนแรงต่อสตรี ที่พยายามเลียนแบบรูปลักษณ์และทรงผมของนักร้องและนักแสดงหญิงของเกาหลีใต้ โดยเรียกการกระทำเช่นนี้ว่า "รูปลักษณ์ของเด็กผู้เหลวไหลแห่งเกาหลีใต้"
มติชนออนไลน์