พุทธศาสนสุภาษิต

หมวดความสุข


  • ความเกิดขึ้นแห่งท่านผู้รู้ทั้งหลาย นำสุขมาให้


  • ผู้เจริญเมตตาดีแล้ว หลับและตื่นย่อมเป็นสุข


  • ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี


  • ความไม่เบียดเบียนกันเป็นสุขในโลก


  • การแสดงสัทธรรม นำความสุขมาให้


  • ความสงบระงับแห่งสังขารนั้น เป็นสุข


  • นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง


  • จะพึงมีความสุขเป็นนิตย์ ก็เพราะไม่พบเห็นคนพาล


  • ละเหตุทุกข์ได้ เป็นสุขในที่ทั้งปวง


  • การประพฤติประโยชน์กับคนไม่ฉลาดในประโยชน์ ไม่นำสุขมาให้เลย


  • ความดี โจรลักไม่ได้


  • คนเรานี้ ถ้ามีอันทำชั่วลงไป ก็อย่าพึงทำความชั่วนั้นซ้ำเข้าอีก


  • บาปไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ


  • ความชั่ว ไม่ทำเสียเลย จะดีกว่า


  • ความดี ทำไว้แล จะดีกว่า


  • อย่าดูหมิ่นความชั่วว่าเล็กน้อย คงจักไม่มีผลมาถึงตัว


  • สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม


  • ทำดี ได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว


  • ธรรมนั่นแหละ ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม


  • ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว นำมาซึ่งความสุข


  • ผู้อิ่มในธรรม ย่อมนอนเป็นสุข


  • เกียรติไม่ทิ้งผู้ตั้งอยู่ในธรรม


  • ผู้ประพฤติธรรม ย่อมนอนเป็นสุข


  • กรรมไม่ดี ย่อมเผาผลาญในภายหลัง


  • การสร้างสมความดี นำสุขมาให้


  • ไม่ควรทำบาป แม้เพราะเห็นแก่กิน


  • การที่ไม่ดี และไม่เป็นประโยชน์แก่ตนนั้นทำง่าย


  • ความดี คนชั่ว ทำยาก


  • ความดี คนดี ทำง่าย


  • ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย คำว่า บุญ นี้เป็นชื่อของความสุข


  • ถึงคราวจะสิ้นชีพ บุญก็ช่วยให้เป็นสุข


  • การไม่ทำความชั่ว ย่อมก่อให้เกิดความสุข


  • ความชั่ว คนชั่ว ทำง่าย


  • เพราะน้ำหยดทีละน้อย หม้อน้ำก็ยังเต็มได้


  • ความดีที่ทำไว้เองนี้แหละ เป็นทรัพย์ส่วนของตัวโดยเฉพาะ


  • ตายเพราะชอบธรรมดีกว่า อยู่อย่างไม่ชอบธรรม จะมีค่าอะไร


  • กรรมย่อมจำแนกสัตว์ คือ ให้ทราม และประณีต


  • ความดีที่ทำไว้เองเป็นมิตรตามตัวไปเบื้องหน้า


  • ทำกรรมใดแล้ว ไม่ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำนั้นแลดี


  • อย่าพึงสร้างความพอใจในความชั่วนั้น การสั่งสมความชั่ว เป็นการก่อความทุกข์


  • ทำกรรมใดแล้ว ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำนั้นแลไม่ดี


  • ไม่พึงปรารถนาความสำเร็จแก่ตน โดยทางไม่ชอบธรรม


  • ธีรชนสร้างความดีทีละน้อย ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความดี


  • การใดเป็นประโยชน์ด้วย ดีด้วย การนั้นแลทำได้ยากยิ่ง


  • พาลชนสร้างสมความชั่วทีละน้อย ก็เต็มเพียบไปด้วยความชั่ว


  • การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้เพียบพร้อม การชำระจิตของตนให้ผ่องใส สามนี้ คือคำสอนของพระพุทธเจ้า


  • คนมีความชั่วย่อมเดือนร้อน เพราะกรรมของตน


  • ไม่ได้แต่ชอบธรรมดีกว่า ถึงได้แต่ไม่ชอบธรรมจะดีอะไร


  • บัณฑิตไม่ประกอบความชั่ว เพราะเห็นแก่ความสุขส่วนตัว


  • บัณฑิตนั้น ถึงถูกทุกข์กระทบ ถึงพลาดพลั้งลงก็คงสงบอยู่ได้ และ ไม่ละทิ้งธรรมเพราะชอบหรือชัง


  • ช่างดอกไม้ ร้อยพวงมาลัยได้มากมาย จากดอกไม้กองหนึ่ง ฉันใด คนเรา เกิดมาแล้วก็ควร สร้างความดีงามให้มาก ฉันนั้น


  • บุคคลใดเคยทำกรรมชั่วไว้ แล้วกลับตัวได้ หันมาทำดีปิดกั้น บุคคลนั้นย่อมทำโลกให้แจ่มใส เหมือนดังดวงจันทร์อันพ้นจากเมฆหมอก


  • บุคคลใดในกาลก่อนเคยผิดพลาด ครั้นภายหลังเขากลับตัวได้ไม่ประมาท บุคคลนั้น ย่อมทำโลกให้แจ่มใส เหมือนดังดวงจันทร์ อันพ้นจากเมฆหมอก


  • พึงสละทรัพย์ เพื่อเห็นแก่อวัยวะ พึงสละอวัยวะ ในเมื่อจะรักษาชีวิต พึงสละได้หมด ทั้งอวัยวะ ทรัพย์ และ ชีวิต ในเมื่อคำนึงถึงธรรม