๘๗ ปรัชญาการทำงานและการดำเนินชีวิตของ ดร.เทียม โชควัฒนา (II)



๓๑. เข็มเล่มหนึ่งไม่มีปลายแหลมสองด้าน
ทุกคนมีจุดเด่นและจุดด้อย คนเราจึงไม่มีใครเก่งทุกอย่าง
เปรียบเสมือนเข็มที่มีปลายแหลมสำหรับ เย็บ ปะ ชุน ได้เพียงด้านเดียว
ฉะนั้นคนเราควรรู้และทบทวนจุดเด่น และจุดด้อยของตนอยู่เสมอ.

๓๒. หนังฉายซ้ำไม่ตื่นเต้น ตลกมุขเก่าไม่มีคนฮา
งานทุกงานควรต้องได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้น
และสอดคล้องกับวันเวลาที่เปลี่ยนไปเสมอ.

๓๓. ผู้เป็นพนักงานขายที่ดี ใช่ว่าจะเป็นซุปเปอร์ที่ดีได้เสมอไป
ผู้ที่มีความสามารถสูงในงานอย่างหนึ่ง ใช่ว่าจะทำงานอีกอย่างหนึ่ง
ได้ดีเสมอไป ดังนั้น ผู้จะเป็นหัวหน้าที่ดีได้นอกจาก
จะต้องทำงานเก่งแล้ว ต้องเข้าใจวิธีสอนและปกครองคนด้วย.

๓๔. หมั่นเล่าสร้างความจำ หมั่นซักถามเพื่อสร้างความรู้
เมื่อได้เรียนรู้สิ่งใดแล้วหมั่นถ่ายทอดให้ผู้อื่นรับรู้ ด้วย
จะช่วยให้เราจำได้ดีขึ้น และเมื่อไม่รู้สิ่งใดก็อย่าอายที่จะถาม
เพราะจะช่วยให้เรารู้มากขึ้น ในขณะที่คนดอ้อวดว่ารู้หมดแล้ว
แท้จริงคือคนที่ไม่รู้อะไรเลย

๓๕. มอง ฟัง คิด ถาม คือพื้นฐานของการเรียนรู้
พื้นฐานที่ดีของการเรียนรู้ต้องอาศัยทั้งการมอง ฟัง คิด ถาม ประกอบกัน
อย่าเพียงแต่มอง ฟัง หรือถามแล้วนำมาใช้โดยไม่มีการคิดไตร่ตรอง
หาเหตุผลเสืยก่อน.

๓๖. ความเป็นเพื่อนเป็นสิ่งดีงาม ที่มนุษย์จะพึงปฎิบัติต่อกัน
คนเราจะมีความสุขในชีวิต หากรู้จักมอบความเป็นเพื่อนให้แก่คนรอบข้าง
และรู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างจริงใจโดยไม่หวันสิ่งตอบแทน.

๓๗. เป็นคนต้องรู้จักตัวเอง
การหมั่นสำรวจตัวเอง ย่อมทำให้คนเรารู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง
สามารถแก้ไขข้อบกพร่องและพัฒนาตนเองได้ถูกต้องเสมอ.

๓๘. พลังกายในวัยหนุ่มมีเหลือเฟือ ควรใช้ให้คุ้มค่า
เกิดเป็นคนต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่าต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น และต่อสังคม
อย่าให้มีช่วงเวลาใดที่ต้องรู้สึกเสียดาย ที่ให้เวลาผ่านไป
อย่างไร้ประโยชน์.

ยาสีฟันสมุนไพรพฤกษาเฮิร์บ


๓๙. การแข่งขันบังคับให้ต้องใช้สมอง
การแข่งขันคือ การทำให้คนเราต้องคิดและตื่นตัวเสมอ
ทำให้เกิดการพัฒนาความสามารถตลอดเวลา.

๔๐. อารมณ์ชั่ววูบ... อาจทำลายมิตรภาพที่ยืนยาวได้
การแก้ปัญหาโดยขาดสติ หรือใช้อารมณ์ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดี
ระหว่างกัน และอาจลุกลามไปสู่ความบาดหมางกันได้.

๔๑. การพูดจาอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้คนยอมรับ
การรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนช่วยให้เราครองใจผู้อื่นได้

๔๒. ความคิดสร้างสรรค์ คือ...พื้นฐานสำคัญของผู้ประกอบการค้า
ในการทำธุระกิจ ต้องพัฒนาความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ
เพราะการผูกติดกับความคิดเก่าๆ ในขณะที่เวลาเปลี่ยนไปนั้น
เป็นการปิดกั้นความเจริญก้าวหน้าของธุระกิจ.

๔๓. อย่าหลงเชื่อคำกล่าวของผู้อื่นโดยขาดสติ และความรอบคอบ
ก่อนที่จะเชื่อหรือคล้อยตามคำพูดใดๆ ของผู้อื่น
ต้องใช้สติไตร่ตรองด้วยเหตุและผลอย่างรอบคอบเสียก่อน.

๔๔. เป็นคนต้องรักตัวเองในทางที่ถูก
คนที่รักตัวเองอย่างแท้จริง คือคนที่สร้างคุณค่าให้ตนเองอย่างสม่ำเสมอ
ด้วยการหมั่นศึกษาพัฒนาตนเอง ดำรงค์ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
มีเพื่อนที่ดี และหลีกหนีให้ไกลจากอบายมุข.

๔๕. หากอยากมีอนาคตที่มั่นคง...จงอย่าเห็นแก่ตัว
คนดีย่อมไม่เห็นแก่ตัว ชอบช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
คนเช่นนี้สมควรได้รับการสนับสนุนให้ได้ดีมีอนาคต.

๔๖. การศึกษาข้อบกพร่องของตน ทำให้เรารู้จักตนเองและผู้อื่นดีฃึ้น
คนเรามีข้อบกพร่องในตัวเองทุกคนไม่มากก็น้อย
ฉะนั้น ให้เรารู้จักพิจารณาข้อบกพร่องของตนเองด้วยปัญญา
จะทำให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง และช่วยเหลือให้ผู้อื่น
ที่เขาอาจมีข้อบกพร่องเช่นเดียวกับเรา.

๔๗. ไม่มีใครเก่งแต่เพียงผู้เดียว
ทุกคนภายในองค์กรเปรียบเสมือนเฟืองจักรกลแต่ละชิ้น
ในเครื่องจักรใหญ่ที่ต้องทำงานประสานกัน ถ้าเฟืองชิ้นใดชำรุด
หรือบกพร่อง เครื่องจักรก็ไม่สามารถทำงานได้ นั่นคือ งานใดๆ
จะสำเร็จด้วยดีต้องอาศัยความสามารถและการประสานงานของทุกคน
ในทีมงาน มิใช่สำเร็จได้ด้วยคนเพียงคนเดียว.

๔๘. ผู้มีความคิดวิจารณญาณ จะก้าวทีละขั้นอย่างมั่นคง
การขยายแนวธุระกิจอย่างมั่นคง ต้องอาศัยการพิจารณาอย่างรอบคอบ
ถึงหลังการและกระบวนการผปรับปรุงระบบการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน.

๔๙. อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวจนขาดมนุษยธรรม
คนที่ทำธุระกิจแบบไร้คุณธรรมเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
ย่อมจะหาความสุขใจและความเจริญในชีวิตได้ยาก.

๕๐. แม้จะลำบากเพียงใดก็ย่อมฟื้นคืนเป็นดีได้
จงคิดเสมอว่า คนเรานั้นแม้จะประสบความล้มเหลว
ก็ย่อมสามารถปรับปรุงให้กลับคืนดีได้
หากไม่ท้อแท้ต่อโชคชะตา และคิดเสมอว่า
เมื่อล้มแล้วก็สามารถลุกขึ้นยืนได้อยู่เสมอ.

๕๑. สร้างคนต้องใช้เวลา...
การสร้างคนเหมือนปลูกต้นไม้ใหญ่ ต้องอดทนและใช้เวลานาน
ไม่เหมือนการปลูกถั่วงอก ซึางวันเดียวก็เห็นผล.

๕๒. เมื่อจะแหงนมองฟ้า...ก็อย่าลืมว่าเท้าตัวเองสัมผัสดินอยู่
คนเราต้องเตือนตนไม่ให้ลืมตัว อย่าทะนงว่าตนนั้นเลิศเลอไปกว่าคนอื่น
จงคิดเสมอว่าในโลกนี้มีคนที่ดีกว่าเราอีกมาก.

๕๓. จะให้ลูกน้องกล้าตัดสินใจ...ผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบความเสี่ยง
เมื่อเห็นว่าลูกน้องสามารถทำงานได้ ต้องมอบให้เขาทำ
ถ้าเขาทำผิดพลาด เราก็ต้องช่วยรับผิดชอบด้วย.

๕๔. ปลูกต้นไม้ใหญ่...อย่าเก็บผลไว้กินแต่เพียงผู้เดียว
การทำงาน เมื่อประสบความสำเร็จแล้วควรแบ่งปันผลประโยชน์
ให้ผู้อื่นและส่วนรวมด้วย.

๕๕. ความรักเป็นความสุขเหนือทรัพย์สินเงินทอง
คนที่มีความรัก มีจิตใจดี และมองโลกในแง่ดี
จะมีความสุขยิ่งกว่าสิ่งใด.

๕๖. มองกระจกที่มีปรอท...จะไม่เห็นอะไรอื่นนอกจากตัวเอง
คำว่า "ปรอท" ภาษาจีนใช้คำว่า "สุ่ยหยิน" หมายถึง เงินเหลว
คนจีนเปรียบคนที่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นใจคนอื่น คิดถึงแต่ตนเอง
เหมือนคนที่มองแต่กระจกฉาบปรอท ซึ่งไม่มีวันที่จะเห็นสิ่งอื่น
นอกจากตนเองเท่านั้น.

๕๗. การล่าช้ามิได้หมายความว่าเป็นผู้ล้าหลัง
อย่ารีบร้อนเพราะกลัวว่าจะล้าหลังคู่แข่ง
ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ...จะได้ไม่ผิดพลาด.

๕๘. ชนะใจมิตรและศัตรูได้...คือผู้ชนะที่แท้จริง
ชนะสิ่งใดก็ไม่มีความหมายเท่าชนะใจ ทั้งมิตรและศัตรู.

๕๙. กินข้าวอย่างมังกร...ทำงานอย่างเสือ
คนจีนมองมังกรเป็นสัตว์ที่สง่างาม ฉะนั้นถ้าจะ
ทำอะไรรวดเร็วก็ต้องเร็วแบบสง่างาม
ส่วนเสือนั้นคนจีนมองว่าปราดเปรียวในการล่าเหยื่อ
และไม่กินลูกตัวเอง หมายถึงให้ทำงานอย่างคล่องตัว
ทำงานเป็นทีมและไม่รังแกพวกเดียวกัน.

๖๐. ตักน้ำเต็มได้แค่ภาชนะบรรจุเท่านั้น
ในการดำเนินธุระกิจ ถ้ารู้จักการเสียสละแบ่งปันผลประโยชน์ให้ผู้อื่น
หรือสังคม รวมทั้งจ่ายภาษีให้รัฐได้พัฒนาประเทศอย่างเต็มที่
ธุระกิจก็จะเจริญรุ่งเรืองขยายกิจการใหญ่ขึ้นได้
อุปมาเหมือนภาชนะที่มีน้ำเต็มแล้ว ตักน้ำออกไปทำประโยชน์ที่อื่นบ้าง
ก็จะมีโอกาศจะตักน้ำเติมเข้ามาได้อีกและมากขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุดก็มีโอกาศที่จะเพิ่มจำนวนภาชนะ
หรือขยายขนาดภาชนะให้ใหญ่ขึ้นได้.

อ่านต่อหน้า 3