ลองดูจดหมาย 2 ฉบับ นี้ จริงเท็จประการใดไม่อยากให้ความเห็น ทุกคนมีปัญญาคิดได้เอง อยากให้มีการเปิดเผยเอกสารท่านปรีดี ที่ฝรั่งเศสจัง อยากรู้อะไรดีๆ มากกว่านี้
ยังมีญาติของ 3 คนนี้่อีก ที่จอมพล ป เคยจ่ายเงินเลี้ยงดู อีกคนทำงานที่ รร. ภปร. ราชวิทยาลัย อีกคนทำงานอยู่ห้องเครื่อง (ครัว) ในวัง ถ้าคนเหล่านี้เป็นญาติของฆาตรกรฆ่าในหลวง ร 8 จริง ไม่ใช่แพะ จะได้ทำงานอย่างนั้นไหม ใครจะกล้าจ้างล่ะ
ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์
ระลึกถึง คุณชูเชื้อ (วลี) สิงหเสนี
ข้าพเจ้าจำได้ว่าพบคุณ
คุณชิต สามีคุณชูเชื้อ ตกเป็นผู้ต้องหาปลงพระชนม์ร่วมกับคุณ
ข้าพเจ้านั่งแถวหน้าบัลลังก์พิจารณาคดี สังเกตุเห็นผู้ต้องหาทั้งสามอยู่ในความสงบ สุขุม และไม่ประหวั่นพรั่นพรึง เพราะเชื่อในความบริสุทธิ์ของตน เชื่อในความยุติธรรมของศาลทั้งๆที่อัยการฝ่ายโจทก์ สร้างหลักฐานเท็จ ใส่ร้ายกล่าวโทษ
การพิจารณาคดีสวรรคต ได้ยืดเยื้อมาอีกหลายปี ในช่วงนั้นข้าพเจ้าเองก็ถูกมรสุมการเมืองรุมกระหน่ำ ถูกจับกุมในคดี"กบฏสันติภาพ" ด้วยข้อกล่าวหา "กบฏภายใน และภายนอกราชอาณาจักร" เมื่อได้รับอิสรภาพหลังจากถูกคุมขังเป็นเวลา 84 วันแล้วข้าพเจ้าก็ได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อร่วมทุกข์ และเป็นกำลังใจให้นาย
นายปรีดี กับข้าพเจ้าติดตามข่าวการพิจารณาคดีสวรรคตอยู่เสมอ นายปรีดีเชื่อในความบริสุทธิ์ของคุณเฉลียว คุณชิต และคุณบุศย์ เช่นเดียวกับเชื่อในความบริสุทธิ์ของตน ที่มิได้มีส่วนพัวพันในคดีสวรรคต ส่งใจช่วย และภาวนาขอให้ผู้บริสุทธิ์ทั้งสาม ได้รับอิสรภาพโดยเร็ววัน
แต่แล้วเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ศาลฏีกาได้พิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสามคน ซึ่งต่อมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2497 จำเลยทั้งสาม ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษแต่ฏีกาได้ตกไปในที่สุด
นายปรีดี กับข้าพเจ้าตกใจยิ่งกับข่าวการประหารชีวิตของผู้บริสุทธิ์ทั้งสาม ในเช้ามืดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498
นายปรีดีกับข้าพเจ้ารู้สึกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวเหยื่อความอยุติธรรมทั้งสาม ที่ประสพความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงและขาดเสาหลักของครอบครัว
คุณ
หลังจากที่ ข้าพเจ้ากลับมาอยู่เมืองไทยเป็นการถาวรแล้ว ทุกวันขึ้นปีใหม่ข้าพเจ้าจะมีกระถางกล้วยไม้ ประดับข้างบันไดขึ้นบ้านซึ่งเป็นของขวัญปีใหม่จากคุณชูเชื้อ นำความชื่นใจมาสู่ข้าพเจ้าและผู้พบเห็น
2-3 ปีมานี้ข้าพเจ้าไม่ได้พบคุณชูเชื้อ ทราบว่าสุขภาพของเธอไม่ค่อยแข็งแรงนักและแล้วคุณชูเชื้อก็ได้ลาจากโลกนี้ไป ตามกฏวัฏสังขาร ยังความเสียใจสู่ลูกหลาน และญาติมิตร
ขอให้กรรมดีนานาประการจงนำคุณ
ข้าพเจ้าเชื่อกฏแห่งกรรมในพุทธศาสนา บรรดาผู้ที่สร้างหลักฐานเท็จ พยานเท็จ ในกรณีสวรรคต มาบัดนี้ ลูกหลานของเขาต้องรับกรรมและชดใช้กรรม รวมทั้งกรรมใหม่ที่ก่อขึ้นเอง ต่างกรรม ต่างวาระ ดังนั้นจึงเป็นที่สังวรแก่ทุกผู้ ทุกคนว่า จงทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ทำความดีผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรมและความถูกต้อง
สัจจะ เป็นอมตะ
ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
ประวัติศาสตร์ ย่อมให้ความกระจ่างในที่สุด
(ท่าน ผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์)
9 มกราคม 2549
ขณะที่นาย
บ้านเลขที่ 2386 ถนนพหลโยธิน
กรุงเทพฯ
25 มกราคม 2522
เรียน นาย
นาย
ข้อความทั้งหมดนี้ ผมได้อ่านให้นายตี๋ฟังต่อหน้าคนหลายคนในวันนี้ เวลาประมาณ 11 น.เศษ และได้ให้นายตี๋พิมพ์ลายนิ้วมือนายตี๋ ต่อหน้าผมและคนฟังด้วย
ขอแสดงความนับถือ
เลื่อน ศิริอัมพร
ต. (พิมพ์ลายนิ้วมือนายตี๋)
Source: sameskybooks.org
Related Post
*ข้อคิด จากพิธีเผาศพ ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์